RSS

Monthly Archives: ธันวาคม 2014

ชีวประวัติท่านอัลหะสัน อัลบัศรีย์ เราะหิมะฮุลลอฮ (ตอนที่ 5-ตอนจบ)

الحسن البصري4
ชีวประวัติท่านอัลหะสัน อัลบัศรีย์ เราะหิมะฮุลลอฮ
(ตอนที่ 5-ตอนจบ : ถ้อยคำล้ำค่าและการเสียชีวิต)
แปลและเรียบเรียงโดย Zunnur


ถ้อยคำล้ำค่าของท่านอัลหะสัน อัลบัศรีย์
 

จากอิมรอน บินคอลิด กล่าวว่า อัลหะสันกล่าวว่า “ผู้ศรัทธานั้นเศร้าเสียใจ และเขาก็ถูกเรียกว่าเป็นคนที่เศร้าเสียใจ เขาไม่สามารถเป็นอื่นได้ เนื่องจากเขาอยู่ระหว่างความกลัว 2 อย่าง คือระหว่างความผิดที่ผ่านพ้นมา(ซึ่งเขาไม่รู้ว่าอัลลอฮจะทรงทำอย่างไรกับมัน)กับอายุขัยที่ยังเหลืออยู่ ซึ่งเขาไม่รู้ ความเสียหายวอดวายใดบ้างที่จะประสบกับเขา”[1]

จากอิมรอน อัลกอศิร กล่าวว่า ฉันถามท่านอัลหะสันเกี่ยวกับเรื่องหนึ่ง แล้วฉันก็พูดว่า “บรรดาฟุเกาะฮฺกล่าวเช่นนั้นและเช่นนี้” ท่านถามกลับมาว่า “ท่านเห็นฟากีฮฺ(ผู้มีความเข้าใจในศาสนาอย่างลึกซึ้ง)ด้วยตาของท่านเองไหม? แท้จริงฟะกีฮฺนั้นคือคนที่สมถะต่อดุนยา รู้ศาสนา และอิบาดะฮฺต่อพระผู้เป็นเจ้าของเขาอยู่เสมอ”[2]

จากฏ็อลหะฮฺ บินศอบิหฺ จากท่านอัลหะสัน กล่าวว่า “ผู้ศรัทธา(มุอ์มิน)คือคนที่รู้ว่า สิ่งที่อัลลอฮทรงกล่าวนั้นคือเช่นที่พระองค์ทรงกล่าว ผู้ศรัทธานั้นคือคนที่มีการงานที่ดีที่สุด และเป็นผู้ที่มีความรู้สึกกลัวที่สุด(ต่ออัลลอฮ) หากเขาได้บริจาคทรัพย์สินมากเท่าภูเขา เขาก็ยังไม่รู้สึกปลอดภัยจนกว่าเขาจะเห็นด้วยตาตัวเอง(ว่าอัลลอฮทรงรับทรัพย์บริจาคของเขา) ความดีของเขา ความกตัญญูของเขา และอิบาดะฮฺของเขาจะไม่เพิ่มพูนขึ้น นอกจากกว่าความรู้สึกกลัวต่ออัลลอฮของเขาจะเพิ่มพูนขึ้นตามไปด้วย พร้อมกันนั้นเขาจะพูดว่า ‘ฉันยังไม่ปลอดภัย’ ส่วนพวกกลับกลอก(มุนาฟิก)จะพูดว่า ‘ผู้คนมีมากมาย ฉันจะได้รับการอภัยโทษ และไม่มีสิ่ง(อันตราย)ใดๆบนตัวฉัน’ เขาลืมประกอบการงาน แต่คาดหวังมากมายต่ออัลลอฮ”[3]

จากฮิชาม บินหัสสาน กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านอัลหะสันสาบานด้วยพระนามของอัลลอฮว่า “ไม่มีใครที่เชิดชูดิรฮัม(เงินตรา) นอกจากว่าอัลลอฮจะทรงให้เขาตกต่ำ”[4]

จากหัซมฺ บินอบูหัซมฺ กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านอัลหะสันกล่าวว่า “สหาย 2 คนที่ชั่วช้าเลวร้ายที่สุดนั่นคือ ดีนารและดิรฮัม ทั้งสองไม่มีประโยชน์ใดๆสำหรับท่านจนกระทั่งทั้งสองแยกไปจากท่าน”[5]

จากอบูอุบาดะฮฺ อันนาญีย์ จากท่านอัลหะสัน กล่าวว่า “โอ้ลูกหลานอาดัม การละทิ้งความผิดนั้นง่ายดายสำหรับท่านมากกว่าการเตาบะฮฺ อะไรกันที่ทำให้ท่านรู้สึกปลอดภัยเมื่อท่านกระทำบาปใหญ่ แล้วประตูแห่งการเตาบะฮฺก็ปิดลง ในขณะที่ท่านอยู่ข้างนอกสถานที่ประกอบการงาน?”[6]

จากซุร็อยกฺ บินอบีซุร็อยกฺ กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านอัลหะสันกล่าวว่า “แท้จริงฟิตนะฮฺนั้นเมื่อมาถึงแล้ว มันจะเป็นที่รับรู้กันสำหรับบรรดาผู้รู้ และเมื่อมันไปแล้ว มันก็จะเป็นที่รับรู้กันสำหรับคนเขลาทั้งหลาย”[7]

จากอุมาเราะฮฺ กล่าวว่า “ฉันอยู่ข้างท่านอัลหะสัน แล้วฟัรก็อดก็เข้ามาหาเรา ขณะนั้นท่านอัลหะสันกำลังทานขนมปัง แล้วท่านอัลหะสันก็กล่าวว่า ‘มาสิและทานสิ’ เขา(ฟัรก็อด)พูดว่า ‘ฉันกลัวหากไม่สามารถแสดงความรู้สึกขอบคุณได้’ ท่านอัลหะสันตอบว่า ‘แต่ท่านสามารถแสดงความรู้สึกขอบคุณ(เพราะ)การดื่มน้ำเย็นได้?’”[8]

ท่านอัลหะสัน อัลบัศรีย์ เสียชีวิต 

จากอับดุลหะมีด บินมัยมูน อดีตทาสของท่านอุรวะฮฺ บินอัซซุบัยรฺ กล่าวว่า “ชายคนหนึ่งพูดกับท่านอิบนุสิรีนว่า ‘ฉันเห็นนกตัวหนึ่งเอาก้อนกรวดของท่านอัลหะสันที่มัสญิด’ ท่านอิบนุสิรีนกล่าวว่า ‘หากฝันของท่านเป็นจริง หมายความว่า ท่านอัลหะสันจะเสียชีวิต’ และไม่นานจากนั้นท่านอัลหะสันก็เสียชีวิต”[9]

จากยูนุส กล่าวว่า “ขณะที่ท่านอัลหะสันใกล้จะเสียชีวิต ท่านกล่าวอินนาลิลลาฮิ วะอินนาอิลัยฮิ รอญิอูน ลูกของท่านอัลหะสันขยับตัวเข้าใกล้ท่านพร้อมกล่าวว่า ‘พ่อครับ ท่านทำให้ฉันเศร้า ท่านเห็นสิ่งใดหรือ?’ ท่านอัลหะสันตอบว่า ‘มันคือชีวิตที่ฉันไม่พบเคยว่ามีสิ่งใดเหมือน’”

ฮิชาม บินหัสสาน กล่าวว่า “เราอยู่ข้างๆท่านมุหัมมัด(บินสิรีน)ในช่วงเย็นของวันพฤหัสบดี แล้วชายคนหนึ่งก็เข้ามาหาท่านหลังเวลาอัศรฺ พร้อมกับกล่าวว่า ‘ท่านอัลหะสันได้เสียชีวิตแล้ว’ เมื่อได้ยินดังนั้น ท่านมุหัมมัดได้ขอดุอาอ์ให้ท่านอัลหะสันได้รับความเมตตา แล้วสีหน้าของท่านก็เปลี่ยนไป และท่านก็ไม่พูดอะไร ท่านไม่พูดอะไรเลยจนกระทั่งตะวันลับฟ้าไป และผู้คนก็ไม่กล้าเข้าไปพูดคุยกับท่านด้วย เนื่องจากพวกเขาเห็นความเศร้าโศกใจที่กำลังปกคลุมตัวท่าน”

อัซซะฮะบีย์ กล่าวว่า “ท่านมุหัมมัด บินสิรีน มีชีวิตหลังจากการตายของท่านอัลหะสันเพียง 100 วันเท่านั้น”

อับดุลลอฮ บินอัลหะสัน กล่าวว่า พ่อของฉันมีชีวิตประมาณ 88 ปี

อัซซะฮะบีย์ กล่าวว่า “ท่านอัลหะสันเสียชีวิตในเดือนเราะญับ คือในปีฮิจเราะฮฺศักราชที่ 110 มีผู้คนมากมายมาร่วมเป็นพยานดูญะนาซะฮฺของท่าน และละหมาดญะนาซะฮฺแก่ท่านหลังจากละหมาดญุมอะฮฺ ที่เมืองบัศเราะฮฺ ผู้คนมากมายมาเยี่ยมญะนาซะฮฺของท่าน และพวกเขาต่างยื้อแย้งกันจะเข้าไปมองใบหน้าของท่าน จนกระทั่งละหมาดอัศรฺไม่สามารถกระทำได้ที่มัสญิด”

มีรายงานว่า ท่านอัลหะสันเป็นลม หลังจากนั้นท่านก็ยิ้มครู่หนึ่ง และพูดว่า “แท้จริงพวกท่านได้ปลุกฉันขึ้นมาจากเรือกสวนและน้ำพุทั้งหลาย และสถานที่อันทรงเกียรติ”

ขออัลลอฮทรงเมตตาท่านด้วยความเมตตาที่มากมาย และทรงให้เราได้อยู่ร่วมกับท่านในสวนสวรรค์ชั้นสูงสุด ชั้นที่เราจะหยิบเอาพืชผลต่างๆได้อย่างง่ายดาย

___________________________

[1] หิลยะฮฺ อัลเอาลิยาอ์ วะเฏาะบะก็อต อัลอัศฟิยาอ์ , อบูนุอัยมฺ , 2/132

[2] หิลยะฮฺ อัลเอาลิยาอ์ วะเฏาะบะก็อต อัลอัศฟิยาอ์ , อบูนุอัยมฺ , 2/139

[3] หิลยะฮฺ อัลเอาลิยาอ์ วะเฏาะบะก็อต อัลอัศฟิยาอ์ , อบูนุอัยมฺ , 2/153

[4] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 4/576

[5] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 4/576

[6] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 4/578

[7] อัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบรอ , มุหัมมัด บินสะอดฺ , 7/166

[8] อัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบรอ , มุหัมมัด บินสะอดฺ , 7/176

[9] อัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบรอ , มุหัมมัด บินสะอดฺ , 7/174

<photo id=”1″ />

 

ป้ายกำกับ: , , , , , , , , , , , , ,

ชีวประวัติท่านอัลหะสัน อัลบัศรีย์ เราะหิมะฮุลลอฮ (ตอนที่ 4)

الحسن البصري3
ชีวประวัติท่านอัลหะสัน อัลบัศรีย์ เราะหิมะฮุลลอฮ
(ตอนที่ 4 : ฟิตนะฮฺอิบนุอัลอัชอัษ , ครูบาอาจารย์และลูกศิษย์)
แปลและเรียบเรียงโดย Zunnur


ท่านอัลหะสัน อัลบัศรีย์ และฟิตนะฮฺอิบนุอัลอัชอัษฺ
 

ดูเหมือนว่าท่านอัลหะสัน อัลบัศรีย์ เราะหิมะฮุลลอฮ จะคัดค้านการก่อกบฏของอิบนุอัลอัชอัษต่ออัลหัจญาจญ์ แต่พวกเขา(ฝ่ายของอิบนุอัลอัชอัษ)ก็พยายามบีบคั้นให้ท่านทำการกบฏร่วมกับพวกเขา แต่อัลลอฮด้วยความโปรดปรานและความเมตตาของอัลลอฮ พระองค์ทรงคุ้มครองท่านจากฟิตนะฮฺ แม้ท่านจะเกือบเสียชีวิตก็ตาม ต่อไปนี้คือบางรายงานที่เล่าถึงเหตุการณ์

จากสุลัยมาน บินอลี อัรร็อบอีย์ กล่าวว่า “เมื่อเกิดฟิตนะฮฺการกบฏของอิบนุอัลอัชอัษต่ออัลหัจญาจญ์ อุกบะฮฺ บิน อับดุลฆอฟิร , อบูอัลเญาซาอ์ และอับดุลลอฮ บินฆอลิบ และพวกพ้องของพวกเขาก็เดินทางมาพบกับท่านอัลหะสัน เมื่อเจอกันแล้วพวกเขาก็พูดว่า ‘โอ้อบูสะอีด ท่านคิดเห็นอย่างไรกับการโจมตีจอมเผด็จการคนนี้ที่ได้หลั่งเลือดที่ต้องห้ามในการหลั่งเลือด , ยึดทรัพย์สินที่ต้องห้ามในการยึด , ละทิ้งการละหมาด และทำเช่นนั้นและเช่นนี้?’ และพวกเขาก็พูดถึงการกระทำอื่นของอัลหัจญาจญ์ด้วย ท่านอัลหะสันกล่าวว่า ‘ฉันเห็นว่าพวกท่านไม่ควรโจมตีเขา เพราะหากนี่คือการลงโทษจากอัลลอฮ พวกท่านจะไม่สามารถผลักดันการลงโทษของพระองค์ได้ด้วยกับดาบของพวกท่าน และหากนี่คือการทดสอบ ก็จงอดทนเถิด จนกว่าอัลลอฮจะทรงตัดสิน และพระองค์คือผู้ทรงตัดสินที่ดีที่สุด’ แล้วพวกเขาก็ออกไปจากที่นั่นพร้อมกับพูดว่า ‘เราจะเชื่อฟังผู้ปฏิเสธศรัทธาที่ไม่ใช่อาหรับคนนี้หรือ?’ ในขณะที่พวกเขาคือชาวอาหรับ แล้วพวกเขาก็ไปพร้อมกับอิบนุอัลอัชอัษ และสุดท้ายพวกเขาก็ถูกฆ่าตายทั้งหมด”[1]

จากอัลหะสัน กล่าวว่า “หากมนุษย์อดทนต่อบททดสอบที่มาจากฝ่ายผู้ปกครองของพวกเขา พวกเขาก็จะได้รับการปลดปล่อยจากความคับแคบ แต่พวกเขารีบร้อนหยิบดาบ แล้วพวกเขาก็ปล่อยให้ยึดติดอยู่กับมัน ขอสาบานต่ออัลลอฮ พวกเขาไม่ได้นำมาซึ่งความดีงามใดๆเลย”[2]

จากอัยยูบ กล่าวว่า มีผู้กล่าวกับอิบนุอัลอัชอัษว่า “หากท่านพอใจที่จะให้พวกเขาถูกฆ่าที่รอบๆตัวท่าน เฉกเช่นที่พวกเขาถูกฆ่าที่รอบอูฐของท่านหญิงอาอิชะฮฺ ก็จงปล่อยท่านอัลหะสันออกมา” อิบนุอัลอัชอัษก็ส่งตัวแทนไปยังท่านอัลหะสัน และบังคับให้ท่านออกไป[3]

จากอิบนุเอานฺ กล่าวว่า “ผู้คนคิดว่าเหตุการณ์เกี่ยวกับอิบนุอัลอัชอัษคงยืดเยื้อต่อไป พวกเขาจึงถามว่า ‘ชัยคฺคนนี้(หมายถึงท่านอัลหะสัน)ได้ออกไปหรือยัง?’ อิบนุเอานฺตอบว่า ‘ฉันเห็นท่านอยู่ระหว่าง 2 สะพานโดยสวมใส่สะระบั่นสีดำ เมื่อพวกเขาคลาดสายตาไปจากท่าน ท่านก็กระโดดตกลงไปในแม่น้ำด้านหนึ่งจนกระทั่งท่านรอดปลอดภัยจากพวกเขา และท่านเกือบจะสิ้นชีวิตในวันนี้’”[4]

จากสัลมฺ บิน อบูอัซซัยยาล กล่าวว่า “ชายคนหนึ่งถามท่านอัลหะสัน ขณะที่ตัวเขานั้นอยู่กับชาวเมืองชามที่กำลังฟังด้วยว่า ‘โอ้อบูสะอีด ท่านมีความคิดเห็นอย่างไรบ้างเกี่ยวกับฟิตนะฮฺต่างๆ เช่น ฟิตนะฮฺยะซีด บิน อัลมุหัลลับ และอิบนุอัลอัชอัษ?’ ท่านอัลหะสันตอบว่า ‘พวกท่านอย่าได้เข้าร่วมกับพวกนั้นหรือพวกนี้’ ชาวเมืองชามคนหนึ่งพูดว่า ‘และไม่เข้าร่วมกับอมีรุลมุอ์มินีนด้วยไหมครับ? ท่านอบูสะอีด’ ท่านอัลหะสันโกรธ แล้วทำสัญญาณมือเพื่อเป็นการเตือน แล้วท่านก็กล่าวว่า ‘ใช่ ไม่เข้าร่วมกับอมีรุลมุอ์มินีนด้วย’”[5]

จากอิบนุเอานฺ กล่าวว่า “มุสลิม บินยะสาร มีสถานะที่สูงกว่าท่านอัลหะสันสำหรับชาวเมืองบัศเราะฮฺ จนกระทั่งเมื่อเขา(มุสลิม)ได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับอิบนุอัลอัชอัษ จากนั้นมาท่านอัลหะสันจึงมีสถานะที่สูงกว่า ณ ที่นั่น ส่วนคนอื่นนั้นมีสถานะที่ลดต่ำลงมา”

ครูบาอาจารย์และลูกศิษย์ของท่านอัลหะสัน อัลบัศรีย์ 

ครูบาอาจารย์ของท่าน :

อัลหาฟิซ กล่าวว่า “ท่าน(อัลหะสัน)ได้เห็น(พบเจอ)กับท่านอลี , ฏ็อลหะฮฺ , ท่านหญิงอาอิชะฮฺ และท่านเป็นเลขาฯของอัรรอบิอฺ บินซิยาด ผู้ว่าการแคว้นคุรอซานในสมัยการปกครองของมุอาวิยะฮฺ ท่านรายงานจากอุบัย บินกะอบฺ , สะอดฺ บินอุบาดะฮฺ , อุมัร บิน อัลค็อฏฏ็อบ แต่ไม่เคยพบเจอกับพวกเขา และยังรายงานจากเษาบาน , อัมมาร บินยาสิร , อบูฮุร็อยเราะฮฺ , อุษมาน บิน อบูอัลอาศ และมะอฺกิล บินสินาน แต่ไม่เคยได้ยินได้ฟังจากพวกเขา”[6]

อัซซะฮะบีย์กล่าวว่า “ท่าน(อัลหะสัน)รายงานจากอิมรอน บินหุศ็อยนฺ , อัลมุฆีเราะฮฺ บินชุอฺบะฮฺ , อับดุรเราะหฺมาน บินสะมุเราะฮฺ , อบูบักเราะฮฺ , อันนุอฺมาน บินบะชีร , ญุนดับ บินอับดิลลาฮ , สะมุเราะฮฺ บินญุนดับ , อิบนุอับบาส , อิบนุอุมัร , ญาบิร , อัมรฺ บินษะอฺลับ , อับดุลลอฮ บินอัมรฺ , มะอฺกิล บินยะสาร , อบูฮุร็อยเราะฮฺ ,อัลอัสวัด บินสาริอฺ , อนัส บินมาลิก และคนอื่นๆอีกมากมายในหม฿เศาะหาบะฮฺและตาบิอีน เช่น อัลอะหฺนัฟ บินก็อยสฺ และหิฏฏ็อน อัรเราะกอชีย์”[7]

ลูกศิษย์ของท่าน :

อัลหาฟิซกล่าวว่า “ส่วนคนที่รายงานจากท่านนั้นได้แก่ หุมัยดฺ อัฏฏอวิล , ยะซีด บินอบูมัรยัม , อัยยูบ , เกาะตาดะอฺ , เอาฟฺ อัลอะอฺรอบีย์ , บะกัร บินอับดิลลาฮ อัลมุซะนีย์ , ญะรีร บินหาซิม , อบูอัลอัชฮับ , อัรรอบิอฺ บินศอบิหฺ , สะอีด อัลญะรีรีย์ , สะอดฺ บินอิบรอฮีม บินอับดุรเราะหฺมาน บินเอาฟฺ , สิมาก บินหัรบฺ , ชัยบาน อันนะหฺวีย์ , อิบนุเอานฺ , คอลิด อัลหัซซาอ์ , อะฏออ์ บินอัสสาอิบ , อุษมาน อัลบัตตีย์ , กุรเราะฮฺ บินคอลิด , มุบาร็อก บินฟุฎอละฮฺ , มะอฺบัด บินฮาล และคนอื่นๆ ส่วนคนท้ายๆในหมู่พวกเขานั้นได้แก่ ยะซีด บินอิบรอฮีม อัตตุสตะรีย์ , มุอาวิยะฮฺ บินอับดุลกะรีม อัษษะกอฟีย์ ซึ่งเป็นที่รู้จักในชื่อว่า อัฎเฎาะอัล”[8]

____________________________

[1] อัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบรอ , มุหัมมัด บิน สะอดฺ , 7/163-164

[2] อัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบรอ , มุหัมมัด บิน สะอดฺ , 7/163-164

[3] อัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบรอ , มุหัมมัด บิน สะอดฺ , 7/163

[4] อัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบรอ , มุหัมมัด บิน สะอดฺ , 7/163

[5] อัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบรอ , มุหัมมัด บิน สะอดฺ , 7/164

[6] ตะฮฺซีบ อัตตะฮฺซีบ , อิบนุ หะญัร อัลอัษเกาะลานียื , 2/231

[7] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 4/565

[8] ตะฮฺซีบ อัตตะฮฺซีบ , อิบนุ หะญัร อัลอัษเกาะลานียื , 2/231

 

ป้ายกำกับ: , , , , , , , , , , , , , , , , ,

ชีวประวัติท่านอัลหะสัน อัลบัศรีย์ เราะหิมะฮุลลอฮ (ตอนที่ 3)

الحسن البصري2
ชีวประวัติท่านอัลหะสัน อัลบัศรีย์ เราะหิมะฮุลลอฮ
(ตอนที่ 3 : การอิบาดะฮฺ ความรู้สึกกลัว ความโศกเศร้า และความรู้)
แปลและเรียบเรียงโดย Zunnur

การอิบาดะฮฺ ความรู้สึกกลัว และความโศกเศร้าของท่านอัลหะสัน อัลบัศรีย์ 

อิบรอฮีม บินอีซา อัลยัชกูรีย์ กล่าวว่า “ฉันไม่เคยเห็นใครที่โศกเศร้าของเขายาวนานมากไปกว่าท่านอัลหะสัน ฉันไม่เคยพบเห็นเขานอกจากฉันจะคิดว่าเขาเพิ่งประสบเคราะห์กรรม(มุศีบะฮฺ)มา”[1]

อัสสารีย์ บินยะหฺยา กล่าวว่า “ท่านอัลหะสันมักจะถือศีลอดในวันสีขาว(วันที่ 13-15 ของแต่ละเดือน) , ในเดือนต่างๆที่สะอาด(อัชฮุร อัลหุรุม) และในวันจันทร์และวันพฤหัสบดี”[2]

จากชุอัยบฺ ศอหิบ อัฏเฏาะยาลิยะฮฺ กล่าวว่า “ฉันเห็นท่านอัลหะสันอ่านอัลกุรอานพร้อมกับร้องไห้ จนกระทั่งน้ำตาของท่านเปียกชุ่มเคราของท่าน”[3]

จากยูนุส กล่าวว่า “ท่านอัลหะสันคือคนที่โศกเศร้าอย่างมาก ส่วนอิบนุสีรีนนั้นคือคนที่ชอบหัวเราะและตลกขบขัน”[4]

จากมะฏ็อร อัลวัรร็อก กล่าวว่า “ญาบิร บินซัยดฺ คือคนจากชาวเมืองบัศเราะฮฺ เมื่อท่านอัลหะสันปรากฏตัวขึ้น เสมือนมีชายคนหนึ่งที่เคยอยู่ในโลกอาคิเราะฮฺมาหา แล้วเขาก็บอกเล่าสิ่งที่เขาได้เห็นมาโดยตรง”[5]

จากฮิชาม จากท่านอัลหะสัน กล่าวว่า “ผู้ศรัทธานั้นโศกเศร้า และเขาได้ชื่อว่าเป็นคนที่โศกเศร้า พร้อมกับกลับไปยังความโศกเศร้า เพียงพอแล้วสำหรับเขาซึ่งสิ่งที่พอเพียงสำหรับแพะตัวเล็ก”[6]

จากมุหัมมัด บิน หะญะดะฮฺ จากท่านอัลหะสัน กล่าวว่า “ผู้ที่รู้จักได้ล่วงลับไป และผู้ที่ถูกทิ้งไว้ยังคงอยู่ ผู้ใดที่ยังลงเหลืออยู่จากหมู่ชาวมุสลิม เขาก็ถูกทำให้โศกเศร้าทุกข์ใจ”[7]

ความรู้ของท่านอัลหะสัน อัลบัศรีย์

เกาะตาดะฮฺ กล่าวว่า “ท่านอัลหะสันคือผู้ที่มีความรู้มากที่สุดในเรื่องหะลาลและหะรอม”[8]

จากบักรฺ บินอับดิลลาฮ อัลมุซะนีย์ กล่าวว่า “ใครก็ตามที่ต้องการมองดูคนที่มีความเข้าใจในศาสนาลึกซึ้ง(ฟะกีฮฺ)มากที่สุดเท่าที่เราเคยเห็นมา เขาก็จงดูท่านอัลหะสันเถิด”[9]

จากอบูหิลาล กล่าวว่า ฉันอยู่ข้างเกาะตาดะฮฺ แล้วข่าวคราวการเสียชีวิตของท่านอัลหะสันก็มาถึง ฉันพูดว่า “แท้จริงเขาได้ดำดิ่งลงไปในความรู้” เกาะตาดะฮฺกล่าวว่า “เปล่าเลย ความรู้ต่างหากที่ผุดขึ้นมาภายในตัวเขา ปกคลุม และดูดซึมเขา ขอสาบานต่ออัลลอฮ ไม่ใครที่เกลียดชังเขานอกจากพวกฮะรูรีย์(เคาะวาริจญ์)”[10]

จากอบูสะอีด อิบนุ อัลอะเราะบีย์ กล่าวว่า “คนส่วนใหญ่ที่เรากล่าวถึง จากบรรดานักอิบาดะฮฺที่มาหาท่านอัลหะสัน และรับฟังคำพูดต่างๆของท่าน และฟังความเข้าใจจากท่านเกี่ยวกับความหมายต่างๆโดยเฉพาะ อัมรฺ บิน อุบัยดฺ และอับดุลวะฮีด บิน ซัยดฺ ถือเป็นคนที่อยู่ร่วมกับท่าน(อัลหะสัน)เสมอ ท่านอัลหะสันมีมัจญ์ลิสเฉพาะที่บ้านของท่าน ซึ่งแทบจะไม่มีการพูดคุยกันเรื่องอื่นเลยนอกจากเรื่องที่เกี่ยวกับความหมายของความสมถะ(ซุฮดฺ)และอิบาดะฮฺ รวมถึงความรู้เกี่ยวกับบาฏิน(จิตใจ) หากมีใครคนหนึ่งถามเกี่ยวกับเรื่องอื่นจากนั้น ท่านจะตำหนิเขาคนนั้นพร้อมกับกล่าวว่า ‘เราปลีกตัวอยู่กับพี่น้องเราเพื่อทำการขัดเกลากันและกันเท่านั้น ส่วนหะละเกาะฮฺ(ความรู้)นั้นมีอยู่ที่มัสญิด แล้วความรู้หะดีษ ฟิกฮฺ ความรู้อัลกุรอาน ภาษา และความรู้อื่นๆก็ถูกดำเนินต่อไป บางครั้งท่าน(อัลหะสัน)ก็ถูกถามเกี่ยวกับตะเศาวุฟ แล้วท่านก็ตอบคำถาม ในหมู่พวกเขามีผู้ที่อยู่กับท่านอัลหะสันเพื่อศึกษาหะดีษ และมีคนที่อยู่กับท่านเพื่อศึกษาอัลกุรบานและบะยาน(คำอธิบาย) มีคนที่อยู่กับท่านเพื่อศึกษาบะละเฆาะ และมีที่อยู่กับท่านเพื่อศึกษาความอิคลาศและความรู้เฉพาะ เช่น อัมรฺ บิน อุบัยดฺ , อบูญุฮัยมฺ , อับดุลวะฮีด บิน ซัยดฺ , ศอลิหฺ อัลมุรรีย์ และชุมัยฏฺ รวมถึงอบูอุบัยดะฮฺ อันนาญีย์ แต่ละคนในหมู่พวกเขานั้นมีชื่อเสียงในเรื่องๆหนึ่ง นั่นคือในเรื่องอิบาดะฮฺ’”[11]

จากคอลิด บิน เราะบาฮฺ เล่าว่า ท่านอนัส บิน มาลิก ถูกถามเกี่ยวกับปัญหาหนึ่ง และท่านก็กล่าวว่า “จงถามอดีตทาสของเรา คืออัลหะสัน” ท่านอนัสกล่าวต่อไปว่า “เราฟังและเขาก็ฟังเช่นกัน แต่เขาจดจำ ส่วนเรานั้นหลงลืม”[12]

จากเกาะตาดะฮฺ กล่าวว่า “เราพบท่านอัลหะสันขณะกำลังนอนหลับ ในข้างศรีษะของท่านนั้นมีตะกร้าอยู่ เราจึงดึงมันมา ปรากฏว่ามีขนมปังและผลไม้ แล้วเราก็กินมัน เมื่อท่านตื่นขึ้นมาและเห็นเรา ท่านก็ดีใจและยิ้มให้พร้อมอ่าน

أَوْ صَدِيقِكُمْ

หรือเพื่อนๆของพวกเจ้า(อันนูร 24 : 61)”

แล้วท่านก็พูดว่า “ไม่มีบาปใดๆสำหรับพวกท่าน”[13]

___________________________

[1] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 4/575

[2] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 4/578

[3] อัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบรอ , มุหัมมัด บิน สะอดฺ , 6/175

[4] เฏาะบะก็อต อิบนุ สะอดฺ , มุหัมมัด บิน สะอดฺ , 6/162

[5] ตะฮฺซีบ อัลกะมาล , ญะมาลุดดีน อัลมิซซีย์ , 2/231

[6] หิลยะฮฺ อัลเอาลิยาอ์ วะเฏาะบะก็อต อัลอัศฟิยาอ์ , อบูนุอัยมฺ , 2/133

[7] หิลยะฮฺ อัลเอาลิยาอ์ วะเฏาะบะก็อต อัลอัศฟิยาอ์ , อบูนุอัยมฺ , 2/132

[8] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 4/578

[9] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 4/578

[10] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 4/573-574

[11] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 4/579

[12] อัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบรอ , มุหัมมัด บิน สะอดฺ , 7/175

[13] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 7/577

 

ป้ายกำกับ: , , , , , , , , , , , , , ,

ชีวประวัติท่านอัลหะสัน อัลบัศรีย์ เราะหิมะฮุลลอฮ (ตอนที่ 2)

الحسن البصري1
ชีวประวัติท่านอัลหะสัน อัลบัศรีย์ เราะหิมะฮุลลอฮ
(ตอนที่ 2 : คำยกย่องชมเชยจากบรรดาอุละมาอ์)
แปลและเรียบเรียงโดย Zunnur

คำยกย่องชมเชยจากบรรดาอุละมาอ์ 

จากอบูบุรดะฮฺ กล่าวว่า “ฉันไม่เคยเห็นใครมีความคล้ายคลึงกับบรรดาเศาะหาบะฮฺของท่านนบีมุหัมมัดมากไปกว่าท่านอัลหะสัน”[1]

จากหุมัยดฺ บิน หิลาล กล่าวว่า “อบูเกาะตาดะฮฺกล่าวกับเราว่า ‘จงคลุกคลีอย่างสม่ำเสมอกับชัยคฺคนนี้ เพราะฉันไม่เคยเห็นใครที่มีความเห็นใกล้เคียงกับท่านอุมัรมากกว่าเขา นั่นคือ ท่านอัลหะสัน’”[2]

จากอนัส บิน มาลิก กล่าวว่า “จงถามอัลหะสัน เพราะเขาท่องจำ ในขณะที่เราหลงลืม”[3]

จากอัยยูบ กล่าวว่า “ท่านอัลหะสันพูดคุยสนทนาด้วยกับถ้อยคำที่ประหนึ่งดั่งไข่มุก ในขณะที่กลุ่มชนหลังจากท่านนั้นพูดคุยด้วยคำพูดที่ออกมาจากปากของพวกเขาราวกับจะอาเจียน”[4]

อิบนุสะอดฺ กล่าวว่า “ท่าน(อัลหะสัน)มาถึงที่มักกะฮฺ พวกเขา(ลูกศิษย์)ก็ให้ท่านนั่งบนบัลลังก์ และผู้คนก็รวมตัวกัน แล้วท่านก็กล่าวหะดีษแก่พวกเขา คนส่วนหนึ่งที่มาหาท่านได้แก่ มุญาฮิด , อะฏออ์ , ฏอวูส และอัมรฺ บิน ชุอัยบฺ พวกเขาหรือบางคนของพวกเขาพูดว่า ‘พวกเราไม่เคยเห็นใครแบบนี้มาก่อนเลย’”[5]

จากเกาะตาดะฮฺ กล่าวว่า “ฉันไม่เคยรวบรวม(เปรียบเทียบ)ความรู้ของอัลหะสันกับความรู้ของคนอื่น นอกจากฉันพบว่าความรู้ของอัลหะสันนั้นประเสริฐกว่า เพียงแต่เมื่อเขาประสบกับปัญหาหนึ่ง(ที่แก้ไขไม่ได้) ท่านจะเขียนจดหมายไปยังท่านสะอีด บิน อัลมุสัยยับ เพื่อสอบถามท่านเกี่ยวกับเรื่องนั้น”[6]

อัยยูบ อัสสัคติยานีย์ กล่าวว่า “ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ใกล้ๆท่านอัลหะสันนาน 3 ครั้งการทำฮัจย์โดยไม่ถามปัญหาใดๆเลย เนื่องจากละอายต่อท่านอัลหะสัน”[7]

มุอ๊าซ บิน มุอ๊าซ กล่าวว่า “ฉันกล่าวกับอัลอัชอัษว่า ‘ท่านได้พบกับอะฏออ์ และท่านก็มีคำถามอยู่จำนวนหนึ่ง แล้วทำไมท่านไม่ท่านอะฏออ์ล่ะ?’ อัลอัชอัษตอบว่า ‘ฉันไม่เคยพบใครหลังจากท่านอัลหะสัน นอกจากเขาจะดูเล็กกระจ้อยร่อยในสายต่อของฉัน’”[8]

เกาะตาดะฮฺ กล่าวว่า “ฉันไม่เคยนั่งอยู่ในมัจญ์ลิสของนักนิติศาสตร์คนใด นอกจากฉันจะเห็นว่าท่านอัลหะสันนั้นดีเลิศกว่าเขา”[9]

จากอัลอัชอัษ บิน เสาวาร กล่าวว่า “ฉันต้องการไปยังเมืองบัศเราะฮฺเพื่อพบเจอกับท่านอัลหะสัน แล้วฉันก็ถามอัชชะอฺบีย์ว่า ‘โอ้อบูอัมรฺ ฉันต้องการไปยังเมืองบัศเราะฮฺ’ เขาถามว่า ‘ท่านจะทำอะไรที่เมืองบัศเราะฮฺ?’ ฉันตอบว่า ‘ฉันต้องการพบเจอกับท่านอัลหะสัน ดังนั้นโปรดบอกลักษณะของเขาแก่ฉันด้วย’ เขากล่าวว่า ‘ได้ ฉันจะบอกท่าน เมื่อท่านเข้าไปในเมืองบัศเราะฮฺ จงเข้าไปที่มัสญิดบัศเราะฮฺ และจงเพ่งสายตาของท่าน หากท่านเห็นชายคนหนึ่งที่ไม่มีใครเหมือนเขาในมัสญิดนั้น หรือท่านไม่เคยเห็นใครเหมือนเขามาก่อนเลย เขาคนนั้นแหล่ะคืออัลหะสัน’ อัลอัชอัษกล่าวว่า ‘ฉันเข้าไปที่มัสญิดบัศเราะฮฺ และฉันไม่ได้ถามใครเลยเกี่ยวกับท่านอัลหะสัน จนกระทั่งฉันได้เข้าไปนั่งใกล้เข้าเนื่องด้วยคำอธิบายของอัชชะอฺบีย์’”[10]

จากคอลิด บิน ศ็อฟวาน กล่าวว่า “ฉันพบเจอกับมัสละมะฮฺ บิน อับดุลมะลิก เขาพูดว่า ‘จงบอกฉันเกี่ยวกับชาวบัศเราะฮฺที่ดีเลิศที่สุด(หมายถึง ท่านอัลหะสัน)’ ฉันพุดว่า ‘ขออัลลอฮทรงปรับปรุงอามิร ฉันจะบอกกับท่านเกี่ยวกับเขาตามที่ฉันรู้ ฉันคือเพื่อนบ้านที่ใกล้ชิดกับเขา และเป็นเพื่อนในมัจญ์ลิสของเขา เขาคือคนที่ภายในของเขานั้นเหมือนกับภายนอกที่สุด และคำพูดของเขาเหมือนกับการกระทำของเขา เมื่อเขามั่นใจในเรื่องใด เขาก็จะดำเนินการ และหากเขาได้ดำรงมั่นในสิ่งใด เขาก็จะดำรังรักษาไว้ เมื่อเขาสั่งใช้สิ่งใด เขาก็คือคนที่ขยันขันแข็งที่สุดในการทำสิ่งนั้น ในทางกลับกัน หากเขาสั่งห้ามสิ่งใด เขาก็คือคนที่หลีกห่างจากสิ่งนั้นมากที่สุด ฉันมองเห็นว่าเขาคือคนที่ไม่ต้องการ/พึ่งพิงมนุษย์ ในขณะเดียวกันฉันกลับมองเห็นว่าผู้คนมีความต้องการ/พึ่งพิงเขาอย่างมาก’ เขาพูดว่า ‘เพียงพอแล้วสำหรับท่าน โอ้คอลิด กลุ่มชนหนึ่งจะหลงผิดได้อย่างไรกัน ทั้งที่คนๆนี้อยู่ท่ามกลางพวกเขา’”[11]

จากอัลอะอฺมัช กล่าวว่า “ท่านอัลหะสัน อัลบัศรีย์ ไม่เคยหยุดทำความเข้าใจในหิกมะฮฺ จนกระทั่งท่านพูดคุยด้วยกับมัน เมื่อชื่อของท่านถูกเอ่ยขึ้นต่อหน้าท่านอบูญะอฺฟัร มุหัมมัด บินอลี บินอัลหุสัยนฺ ท่านก็พูดว่า ‘ท่าน(อัลหะสัน)คือผู้ที่มีคำพูดคล้ายคลึงกับคำพูดของบรรดานบี’”[12]

________________________

[1] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 4/572

[2] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 4/573

[3] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 4/573

[4] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 4/577

[5] อัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบรอ , มุหัมมัด บิน สะอดฺ , 7/158

[6] อัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบรอ , มุหัมมัด บิน สะอดฺ , 7/57

[7] อัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบรอ , มุหัมมัด บิน สะอดฺ , 7/57

[8] อัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบรอ , มุหัมมัด บิน สะอดฺ , 7/57

[9] ตะฮฺซีบ อัลกะมาล , ญะมาลุดดีน อัลมิซซีย์ , 6/107

[10] ตะฮฺซีบ อัลกะมาล , ญะมาลุดดีน อัลมิซซีย์ , 6/107

[11] ตารีค อัลอิสลาม , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 7/58

[12] หิลยะฮฺ อัลเอาลิยาอ์ วะเฏาะบะก็อต อัลอัศฟิยาอ์ , อบูนุอัยมฺ , 2/147

 

ป้ายกำกับ: , , , , , , , , ,

ชีวประวัติท่านอัลหะสัน อัลบัศรีย์ เราะหิมะฮุลลอฮ (ตอนที่ 1)

الحسن البصري
ชีวประวัติท่านอัลหะสัน อัลบัศรีย์ เราะหิมะฮุลลอฮ
(ตอนที่ 1 : ชื่อ การเกิด และลักษณะ)
แปลและเรียบเรียงโดย Zunnur

                เราอยู่กับอาลิมนักปฏิบัติท่านหนึ่ง เป็นอิมามท่านหนึ่งในหมู่ตาบิอีน เป็นอิมามผู้ที่คำพูดของเขามีความคล้ายคลึงกับคำพูดของบรรดานบี ท่านดูดซับความรู้จนกระทั่งสามารถพูดคุยด้วยหิกมะฮฺ อบูนุอัยมฺได้เปรียบท่านคนนี้ด้วยคำพูดว่า “ในหมู่พวกเขามีคนที่เป็นมิตรสหายกับความรู้สึกกลัวและความเศร้า เป็นเพื่อนกับทุกข์และระทม ไม่นอนและเผอเรอ เขาคือท่านอบูสะอีด อัลหะสัน บิน อบูอัลหะสัน นักนิติศาสตร์และผู้สมถะ เป็นคนที่ขยันทำอิบาดะฮฺ ท่านขว้างทิ้งดุนยาที่เต็มไปด้วยสิ่งประดับประดาเพริศแพร้วมากมาย และกักขังความปรารถนาของอารมณ์ใฝ่ต่ำ”

อัซซะฮะบีย์ ได้บอกเล่าลักษณะของท่านด้วยคำพูดว่า “คุณลักษณะที่ดีของท่านมีมากมาย และคุณความดีของท่านเกินคณานับ ท่านคือผู้นำในเรื่องความรู้และอัลหะดีษ ท่านเป็นอิมามมุจตะฮิด เป็นคนที่ศึกษามาก เป็นผู้นำในเรื่องความรู้เกี่ยวกับอัลกุรอานและการอรรถาธิบาย(ตัฟสีร)อัลกุรอาน ท่านเป็นผู้นำในการนะศีหะฮฺและให้แง่คิด เป็นผู้นำในเรื่องมารยาทและอิบาดะฮฺ ผู้นำในความสมถะ(ซุฮดฺ)และความซื่อตรง(ศิดกฺ) ผู้นำในเรื่องการพูดที่คล่องแคล่วและในเรื่องสำนวนโวหาร และท่านยังเป็นผู้นำในเรื่องความแข็งแกร่งและความกล้าหาญด้วย”

ท่านคือผู้ชายที่มีรูปร่างดี สมบูรณ์ แข็งแรง และใช้ชีวิตยาวนานในการศึกษาความรู้และประสบการณ์ ลูกชายของท่านกล่าวว่า “พ่อของผมมีชีวิต 88 ปี” อัลลอฮทรงคุ้มครองท่านจากฟิตนะฮฺต่างๆ ท่านมิได้ไม่ร่วมเกี่ยวข้องกับฟิตนะฮฺอิบนุ อัลอัชอัษ และท่านเลือกเดินเส้นทางแห่งความสำรวมตน ท่านสั่งห้ามเข้าร่วมกับเขา(อิบนุ อัลอัชอัษ) และสั่งห้ามเข้าร่วมในกองทัพของอัลหัจญาจญ์ด้วย ท่านสั่งให้ห่างไกลจากทั้งหมดนี้ และนี่แหล่ะคือสิ่งจำเป็นสำหรับมุสลิมทุกคนในการเผชิญกับฟิตนะฮฺต่างๆ ท่านมองว่าอัลหัจญาจญ์ อัษษะเกาะฟีย์ เป็นการลงโทษจากอัลลอฮ สุบหานะฮุ วะตะอาลา ในขณะเดียวกันท่านเรียกร้องให้ขอความคุ้มครองจากอัลลอฮ ไม่ใช่จากอาวุธ? หากพวกเขาขอความคุ้มครองจากอัลลอฮ พระองค์จะทรงทำให้ประทานความกว้างขวางและทางออกแก่พวกเขาจากการอธรรมของผู้อธรรมทั้งหลาย แต่หากพวกเขาขอความคุ้มครองจากดาบและการก่อกบฏ พวกเขาก็จะถูกปล่อยทิ้งให้อยู่กับสิ่งนั้น และมันก็จะไม่มีประโยชน์ใดๆสำหรับพวกเขาเลย สมควรอย่างยิ่งที่ชาวมุสลิมจะเรียนรู้เรื่องราวของท่านและรับเอาประโยชน์ต่างๆจากรายงานของท่าน

ขอการสถาพร ความศานติ และสิริมงคลจากอัลลอฮจงมีแด่ผู้ที่ถูกส่งมาเป็นความเมตตาแก่สากลโลก มวลการสรรเสริญเป็นเอกสิทธิ์ของอัลลอฮ พระผู้เป็นเจ้าแห่งสากลจักรวาล

ชื่อ การเกิด และลักษณะของท่านอัลหะสัน อัลบัศรีย์ 

ชื่อของท่าน :

อัลหะสัน บิน อบูอัลหะสัน ยะสาร อัลบัศรีย์ ชื่อเล่น(กุนยะฮฺ)ของท่านคือ อบูสะอีด เป็นอดีตทาสของท่านซัยดฺ บิน ษาบิต เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ บางคนบอกว่าเป็นอดีตทาสของท่านญาบิร บิน อับดุลลอฮ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ และบางคนบอกว่าเป็นอดีตทาสของท่านอามิร บิน หะดีดะฮฺ บางคนก็บอกว่าเป็นอดีตท่าสของอบูอัลยะสัร ส่วนมารดาของท่านนั้นคือออดีตทาสที่ดีที่สุดของท่านอุมมุสะละมะฮฺ ภรรยาของท่านนบี ศ็อลลัลลอฮุ อะลัยฮิ วะสัลลัม , ยะสาร บิดาของท่านเป็นเชลยมาจากมีซาน

การเกิดของท่าน :

อัลหะสันเกิดในช่วง 2 สุดท้ายของเคาะลีฟะฮฺอุมัร บิน อัลค็อฏฏ็อบ เราะฎิยัลลอฮุอันฮฺ

ลักษณะของท่าน :

มุหัมมัด บิน สะอดฺ กล่าวว่า “อัลหะสันนั้นเป็นจุดศูนย์รวม , ผู้รู้ , สูงส่ง , มีความเข้าใจที่ลึกซึ้ง(ฟะกีฮฺ) , เชื่อถือได้(ษิเกาะฮฺ) , เป็นหลักฐาน(หุจญะฮฺ) , ได้รับความเชื่อถือ , เป็นนักอิบาดะฮฺ , นักปฏิบัติธรรม , มีความรู้มาก , มีคำพูดที่คล่องแคล่ว , หล่อเหลา และงดงาม”[1]

อัซซะฮะบีย์ กล่าวว่า “ท่านคือผู้ชายที่มีรูปร่างดีและสมบูรณ์ และถูกขนานว่าเป็นผู้กล้าหาญ”[2]

จากอัลเอาวาม บิน เฮาชับ กล่าวว่า “ฉันไม่เคยเปรียบท่านอัลหะสัน(ว่ามีความละม้ายคล้ายคลึง)กับใคร นอกจากกับนบีคนหนึ่ง”[3]

จากชุอฺบะฮฺ กล่าวว่า “ฉันเห็นอัลหะสันสวมผ้าสะระบั่นสีดำ”[4]

จากอาศิม บิน สัยยัร อัรเราะกอชีย์ ทาสีของอัลหะกัม เล่าว่า “อัลหะสันมาหาหิฏฏ็อน บิน อับดุลลอฮ อัรเราะกอชีย์ ฉันไม่เคยเห็นเยาวชนคนใดที่มีใบหน้าหล่อเหลามากกว่าเขา”[5]

__________________________

[1] อัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบรอ , มุหัมมัด บินสะอดฺ , 7/157

[2] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 4/572

[3] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 4/572

[4] ตารีค อัลอิสลาม , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 7/51

[5] ตะฮฺซีบ อัลกะมาล , ญะมาลุดดีน อัลมิซซีย์ , 6/606

 

ป้ายกำกับ: , , , , , , , , , , , , , , , , , , , ,

ความเข้าใจที่ผิดพลาดเกี่ยวกับการฮัจรฺต่ออะฮฺลุลบิดอะฮฺ (ตอนที่ 4)

wrong-way
ความเข้าใจที่ผิดพลาดเกี่ยวกับการฮัจรฺต่ออะฮฺลุลบิดอะฮฺ
(ตอนที่ 4 : ไม่อนุญาตให้ทำการฮัจรฺในเรื่องอิจติฮาดียะฮฺ[1])
เขียนโดย อุสตาซ อบูอับดุลมุหฺสิน ฟีรันดา อันดิรญา อาบิดีน
แปลและเรียบเรียงโดย Zunnur

ท่านอิบนุตัยมียะฮฺ กล่าวว่า ไม่อนุญาตให้ใครบังคับผู้คนให้ยึดตามทัศนะของเขาในเรื่องอิจติฮาดียะฮฺ แต่เขาจะต้องพูดคุยด้วยหลักฐานทางวิชาการ ใครก็ตามที่ความจริงอย่างใดอย่างหนึ่งจาก 2 ทัศนะเป็นที่ประจักษ์ชัดแก่เขา เขาก็ยึดตามนั้น และใครก็ตามที่ตักลีดต่อทัศนะอื่น ก็ไม่อนุญาตให้ปฏิเสธ และปัญหาต่างๆเช่นนี้นั้นมีมาก… (มัจญ์มูอฺ ฟะตาวา 30/79-80)
การฮัจรฺนั้นอนุญาตให้กระทำต่อคนที่ขัดแย้งกับอายะฮฺอัลกุรอานที่ชัดเจน หรือหะดีษที่มีชื่อเสียงแพร่หลาย หรือมติเอกฉันท์(อิจมาอ์)ของบรรดาชาวสะลัฟเท่านั้น ดังคำพูดของท่านอิบนุตัยมียะฮฺที่ว่า แน่นอนถูกต้อง ใครก็ตามที่ขัดแย้งสวนทางกับ (1)อัลกุรอานที่ชัดเจน และ(2) สุนนะฮฺที่มีชื่อเสียงแพร่หลาย หรือ (3) มติเอกฉันท์ของชาวสะลัฟ ด้วยการขัดแย้งที่ไม่มีข้อผ่อนปรนใดๆ คนเช่นนี้จะถูกปฏิบัติในฐานะเป็นอะฮฺลุลบิดอะฮฺ (มัจญ์มูอฺ ฟะตาวา 24/172)

ส่วนปัญหาอิจติฮาดียะฮฺที่ยังคงมีการถกเถียงกันในหมู่อุละมาอ์นั้น ไม่อนุญาตให้กระทำการตะหฺซีรและฮัจรฺ

อัลกอฎีย์ อิยาฎ กล่าวว่า ไม่สมควรที่คนๆหนึ่งจะสั่งใช้ความดีและห้ามปรามความชั่วเพื่อนำพามนุษย์ให้เดินตามอิจติฮาดและมัซฮับของเขา อนุญาตให้เขาเปลี่ยนแปลงความชั่วที่มีมติเอกฉันท์ให้ห้ามปรามได้เท่านั้น
อิมามอันนะวะวีย์รับคำชี้แจงข้างต้นของอัลกอฎีย์ อิยาฎ ไปใช้ และท่านกล่าวว่า ส่วนเรื่องที่ยังคงมีความเห็นแย้งกันนั้น ไม่อนุญาตให้มีการห้ามปราม และไม่อนุญาตให้ผู้พิพากษ์มุสลิมวิพากษ์วิจารณ์ผู้ที่เห็นต่างกับเขา ตราบใดที่เขามิได้ขัดแย้งกับหลักฐานหรือมติเอกฉันท์(อิจญ์มาอ์) (มีเสนอในอัตตาจญ์ วัลอิกลีล 4/381 และดูคำกล่าวของท่านได้ในอัลมินฮาจญ์ ชัรหฺ เศาะฮีหฺ มุสลิม 2/23-24)
อิมามอันนะวะวีย์ ยังกล่าวอีกว่า “คนที่(ได้รับอนุญาตให้)ทำการสั่งใช้ในความดีและห้ามปรามความชั่วนั้น คือคนที่รู้ในสิ่งที่เขาสั่งใช้และสิ่งที่เขาห้ามปราม เรื่องนี้มีความหลากหลายแตกต่างกันไปตามความดีที่เขาสั่งใช้และความชั่วที่เขาห้ามปราม หาก(ความดีนั้น)เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องจำเป็น(วาญิบ)ที่ชัดเจน และ(ความชั่วดังกล่าว)เป็นเรื่องที่ต้องห้ามที่รู้จักกัน เช่น การละหมาด การถือศีลอด ซินา สุรา และที่คล้ายคลึงกัน ดังนั้นทุกคนต่างก็รู้กัน แต่หากเป็นคำพูดและการกระทำที่ยุ่งยากและเกี่ยวข้องกับการอิจติฮาด ชาวมุสลิมทั่วไป(เอาวาม)ไม่มีสิทธิ์จะเข้าไปในขอบเขตนี้ และไม่อนุญาตให้พวกเขาห้ามปรามมัน เรื่องนี้ถือเป็นสิทธิเฉพาะของบรรดาอุละมาอ์เท่านั้น
ต่อมา บรรดาอุละมาอ์ทำได้เพียงห้ามปรามเรื่องที่เป็นมติเอกฉันท์(อิจมาอ์)เท่านั้น ส่วนเรื่องที่ยังมีความเห็นแย้งกันอยู่นั้น Read the rest of this entry »

 
 

ป้ายกำกับ: , , , , , , , , , , , , , , , , , , , ,

ชีวประวัติท่านอัลฟุฎ็อยลฺ บิน อิยาฎ เราะหิมะฮุลลอฮ (ตอนที่ 3-ตอนจบ)

الفضيل بن عياض2
ชีวประวัติท่านอัลฟุฎ็อยลฺ บิน อิยาฎ เราะหิมะฮุลลอฮ

(ตอนที่ 3-ตอนจบ : ถ้อยคำล้ำค่าและการเสียชีวิต)
แปลและเรียบเรียงโดย Zunnur

ถ้อยคำล้ำค่าของท่านอัลฟุฎ็อยลฺ บิน อิยาฎ

จากอบูอัลฟัฎลฺ อัลค็อซซาซ กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านอัลฟุฎ็อยลฺ บิน อิยาฎ กล่าวว่า “สภาพที่ดีกว่าสำหรับฉันคือ เมื่อฉันอยู่ในภาวะที่ยากจนที่สุด ฉันฝ่าฝืนต่ออัลลอฮอย่างแท้จริง แล้วฉันก็รู้เรื่องนั้นในพฤติกรรมของลาและคนรับใช้ของฉัน”[1]

จากอิสหาก บินอิบรอฮีม เล่าว่า ท่านอัลฟุฎ็อยลฺ กล่าวว่า “เมื่อใดที่ท่านไม่สามารถตื่นขึ้นละหมาดในยามค่ำคืน(กิยามุลลัยลฺ)และถือศีลอดในตอนกลางวันได้ พึงรู้เถิดว่าท่านกำลังถูกขัดขวางและพันธนาการโดยความผิดบาปของตัวท่านเอง”[2]

ฟัยฎฺ บินอิสหาก กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านอัลฟุฎ็อยลฺ ขณะที่ถูกอับดุลลอฮ บินมาลิก ถามว่า “โอ้อบูอลี(อัลฟุฎ็อยลฺ) มีสิ่งใดบ้างที่สามารถปลดปล่อยพวกเราจากสิ่งที่เรากำลังประสบ?” ท่านอัลฟุฎ็อยลฺ กล่าวว่า “ตอบฉันมาสิว่า ใครก็ตามที่เชื่อฟังภักดีต่ออัลลอฮ การฝ่าฝืนของคนอื่นจะทำให้เขาต้องขาดทุนไหม?” เขา(อับดุลลอฮ)ตอบว่า “ไม่ครับ” ท่านอัลฟุฎ็อยลฺ กล่าวต่อไปว่า “ใครก็ตามที่ฝ่าฝืนอัลลอฮ การเชื่อฟังภักดีของคนอื่นจะยังประโยชน์สำหรับเขาไหม?” เขาตอบว่า “ไม่ครับ” ท่านอัลฟุฎ็อยลฺ กล่าวสุดท้ายว่า “นั่นแหล่ะคือสิ่งที่จะปลดปล่อย หากท่านปรารถนาอิสรภาพ” [3]

จากอิบรอฮีม บิน อัลอัชอัษ เล่าว่า ฉันได้ยินอัลฟุฎ็อยลฺ กล่าวว่า “คนที่โกหกที่สุดคือคนที่กลับไปหาบาปของเขา ส่วนคนที่โง่เขลาที่สุดคือคนที่แสดง(อวด)ความดีต่างๆของเขา และคนที่มีความรู้เกี่ยวกับอัลลอฮมากที่สุดคือคนที่เกรงกลัวพระองค์มากที่สุด บ่าวคนหนึ่งจะยังไม่สมบูรณ์แบบจนกว่าเขาจะให้ศาสนาของเขามาก่อนอารมณ์ใฝ่ต่ำของตัวเอง และบ่าวจะไม่มีวันพินาศเสียหาย จนกระทั่งเขาได้ให้อารมณ์ใฝ่ต่ำของตัวเองมานำหน้าศาสนาของเขา”[4]

อิบรอฮีม บิน อัลอัชอัษ กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านอัลฟุฎ็อยลฺ กล่าวว่า “ใครก็ตามที่ต้องการชื่อเสียงของเขาเป็นที่จดจำ เขาจะไม่ถูกจดจำ และใครก็ตามที่ไม่ปรารถนาให้ชื่อเสียงของเขาเป็นที่จดจำ ชื่อของเขาจะเป็นที่จดจำ”[5]

อัซซะฮะบีย์ กล่าวว่า ท่าน(อัลฟุฎ็อยลฺ)เคยถูกถามว่า “ความสมถะ(ซุฮดฺ)นั้นคืออะไร?” ท่านตอบว่า “คือการรู้สึกพอเพียง” และถูกถามอีกว่า “ความสำรวมตน(วะเราะอฺ)คืออะไร?” ท่านตอบว่า “คือการหลีกห่างจากสิ่งหะรอม” ท่านถูกถามว่า “อิบาดะฮฺคืออะไร?” ท่านตอบว่า “คือการดำรงปฏิบัติหน้าที่จำเป็น(สิ่งวาญิบ)ต่างๆ” ท่านถูกถามอีกว่า “ความถ่อมตน(ตะวาฎุอฺ)คืออะไร?” ท่านตอบว่า “คือการที่ท่านยอมจำนนต่อสัจธรรม” และท่านเคยกล่าวอีกว่า “ความสำรวมตน(วะเราะอฺ)ที่หนักหนาที่สุดคือความสำรวมตนของลิ้น(หมายถึง ความสำรวมตนในการพูด-ผู้แปล)”

อัซซะฮะบีย์ กล่าวว่า “นั่นคือท่าน(อัลฟุฎ็อยลฺ) บางครั้งคุณอาจมองเห็นคนหนึ่งที่มีความสำรวมตนในเรื่องอาหาร การแต่งกาย และในการคบค้าสมาคมของเขา แต่เมื่อเขาพูด ก็มีเรื่องอื่นๆเข้ามาในการพูดของเขา บางครั้งเขาก็เลือกสุจริต แต่ความสุจริตของเขาไม่สมบูรณ์ บางครั้งเขาก็พูดจริงเพียงเพื่อทำให้การพูดของเขาดูสวยงาม หวังที่จะได้รับการชมเชยว่าเป็นผู้ที่มีฝีปากดี หรือเพียงอวดแสดงสิ่งที่ดีที่สุดที่เขามีอยู่ เพื่อจะได้รับการเคารพนับถือ หรือบางครั้งเขาก็เงียบในช่วงเวลาที่จริงๆแล้วเขาควรพูด ก็เพื่อให้ได้รับคำสรรเสริญ ยารักษาสำหรับทั้งหมดนี้คือ การตัดสินตัวเองจากการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เว้นแต่(แยกตัวออก)จากญะมาอะฮฺ”[6]

จากอัซซะฮะบีย์ ท่าน(อัลฟุฎ็อยลฺ) กล่าวว่า “โอ้คนยากจนขัดสนเอ๋ย(ณ ที่นี้หมายถึง มนุษย์ทั้งหลาย-ผู้แปล) ท่านทำความชั่วในขณะที่กลับรู้สึกว่าทำความดี ท่านโง่เขลาแต่กลับรู้สึกว่าชาญฉลาด ท่านบ้าในขณะที่กลับรู้สึกว่าเป็นคนมีสติปัญญา ชีวิตของท่านแสนสั้น แต่ความหวังลมๆแล้งกลับยืดยาว (อัซซะฮะบีย์กล่าวว่า ‘ใช่แล้ว ขอสาบานต่ออัลลอฮ ท่านพูดถูกแล้ว’) ท่านอธรรมแต่กลับรู้สึกว่าถูกอธรรม ท่านกินของหะรอมในขณะเดียวกันท่านกลับรู้สึกว่าตนเองเป็นคนที่หลีกห่างจากสิ่งหะรอมเสมอ ท่านชั่วร้ายแต่กลับเชื่อมันเสียสนิทใจว่าเป็นคนที่ยุติธรรม ท่านแสวงหาความรู้เพื่อดุนยา แต่กลับรู้สึกว่าการแสวงหาความรู้ของท่านนั้นเป็นไปเพื่ออัลลอฮ”[7]

จากอับดุศเศาะมัด กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านอัลฟุฎ็อยลฺ กล่าวว่า “หากมีคนๆหนึ่งมาหาท่านเพื่อร้องเรียนเกี่ยวกับผู้อื่นกับท่าน ก็จงตอบเขาไปว่า ‘โอ้พี่น้องของฉัน จงอภัยให้เขาเถิด เพราะการอภัยให้นั้นใกล้กับความยำเกรงมากกว่า’ หากเขาพูดว่า ‘ใจของฉันไม่สามารถให้อภัยได้ และฉันจะตอบกลับเขาเช่นที่อัลลอฮได้บัญชาไว้’ ท่านก็จงพูดว่า ‘หากท่านสามารถตอบกลับไปได้ด้วยดี ก็จงตอบกลับไปอย่างเป็นธรรม แต่หากไม่แล้ว ก็จงกลับไปหาประตูแห่งการอภัยเถิด เพราะมันคือประตูที่กว้างขวางมาก ใครก็ตามที่ให้อภัยและประกอบคุณงามความดี ผลบุญของเขาอยู่ในความรับผิดชอบของอัลลอฮ คนที่ชอบให้อภัยนั้นจะสามารถนอนหลับด้วยอิ่มเอมใจในช่วงค่ำคืนบนเตียงนอนของเขาได้ ส่วนคนที่ชอบล้างแค้นนั้น การงานของเขาจะย่ำแย่ลงเสมอ’”[8]

จากอิบรอฮีม บิน อัลอัชอัษ กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านอัลฟุฎ็อยลฺ บิน อิยาฎ กล่าวว่า “สิ่งใดเล่าจะทำให้เจ้ารู้สึกปลอดภัย หากว่าเจ้าทำร้ายอัลลอฮด้วยการกระทำ เจ้าทำให้พระองค์โกรธกริ้ว และพระองค์ก็ทรงปิดประตูให้การอภัยต่อหน้าเจ้า แต่เจ้ากลับหัวเราะสบายใจ จงพิจารณาดูเถิดว่า สภาพของเจ้าในอนาคตจะเป็นอย่างไร?”[9]

จากมุหัมมัด บินฏูฟัยลฺ กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านอัลฟุฎ็อยลฺ บิน อิยาฎ กล่าวว่า “ความโศกเศร้าของดุนยาจะทำให้ความโศกเศร้าแห่งอาคิเราะฮฺหายไป และความปิติยินดีของดุนยาจะทำให้ความหอมหวานในการอิบาดะฮฺหายไป”[10]

การเสียชีวิตของท่านอัลฟุฎ็อยลฺ บิน อิยาฎ 

คนบางส่วนบอกว่า “เรานั่งอยู่ข้างๆท่านอัลฟุฎ็อยลฺ บิน อิยาฎ แล้วเราก็ถามท่านว่า ‘ท่านอายุเท่าไหร่แล้ว?’ ท่านตอบว่า ‘ท่านอายุได้ 80 ปีแล้วหรือมากกว่านั้น แล้วสิ่งใดเล่าที่ฉันคาดหวังและรอคอย ความแก่ชราได้โจมตีฉัน จนกระทั่งฉันเสียหาย กระดูกจึงบอบบางและสายตาจึงพร่ามัว’”

อัซซะฮะบีย์ กล่าวว่า “ท่าน(อัลฟุฎ็อยลฺ)คือหนึ่งในคนที่ร่วมรุ่นกับท่านสุฟยาน บิน อุยัยนะฮฺ ในเรื่องการเกิด แต่ท่านอัลฟุฎ็อยลฺเสียชีวิตก่อนท่านสุฟยานหลายปี”[11]

มุญาฮิด บินมูซา กล่าวว่า “ท่านอัลฟุฎ็อยลฺ เสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 186” แต่สำหรับอบูอุบัยดฺ , อลี บิน อัลมะดีนีย์ , อิบนุมะอีน , อิบนุ นุมัยรฺ , อัลบุคอรีย์ และคนอื่นๆ บอกว่า “ท่านเสียชีวิตในปีฮิจเราะฮฺที่ 187” และบางส่วนของพวกเขาบอกเพิ่มเติมว่า “ในช่วงต้นเดือนมุหัรรอม”

อัซซะฮะบีย์ กล่าวว่า “ท่าน(อัลฟุฎ็อยลฺ)เสียชีวิตขณะอายุได้ประมาณช่วง 83-89 ปี”[12]

________________________

[1] ศิฟะฮฺ อัศศ็อฟวะฮฺ , อิบนุล เญาซีย์ , 2/238

[2] ศิฟะฮฺ อัศศ็อฟวะฮฺ , อิบนุล เญาซีย์ , 2/238

[3] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดีน อัซซะฮะบีย์ , 8/426

[4] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดีน อัซซะฮะบีย์ , 8/427

[5] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดีน อัซซะฮะบีย์ , 8/432

[6] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดีน อัซซะฮะบีย์ , 8/434

[7] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดีน อัซซะฮะบีย์ , 8/440

[8] หิลยะฮฺ อัลเอาลิยาอ์ วะเฏาะบะก็อต อัลอัศฟิยาอ์ , อบูนุอัยมฺ , 8/112

[9] หิลยะฮฺ อัลเอาลิยาอ์ วะเฏาะบะก็อต อัลอัศฟิยาอ์ , อบูนุอัยมฺ , 8/110

[10] หิลยะฮฺ อัลเอาลิยาอ์ วะเฏาะบะก็อต อัลอัศฟิยาอ์ , อบูนุอัยมฺ , 8/110

[11] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 8/442

[12] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 8/448

 

ป้ายกำกับ: , , , , , , , , , , ,

ชีวประวัติท่านอัลฟุฎ็อยลฺ บิน อิยาฎ เราะหิมะฮุลลอฮ (ตอนที่ 2)

الفضيل بن عياض1

ชีวประวัติท่านอัลฟุฎ็อยลฺ บิน อิยาฎ เราะหิมะฮุลลอฮ
(ตอนที่ 2 : การอิบาดะฮฺ , ความรู้สึกกลัว , ความอุตสาหะในการปฏิบัติตามสุนนะฮฺ , การตำหนิต่อบิดอะฮฺและอะฮฺลุลบิดอะฮฺ , ครูบาอาจารย์และลูกศิษย์)
แปลและเรียบเรียงโดย Zunnur

การอิบาดะฮฺและความรู้สึกกลัวของท่านอัลฟุฎ็อยลฺ บิน อิยาฎ

จากอิสหาก บินอิบรอฮีม อัฏเฏาะบะรีย์ กล่าวว่า “ฉันไม่เคยเห็นใครที่มีความกังวลต่อตัวเขาเอง และคาดหวังความดีงามแก่ผู้อื่นมากไปกว่าท่านอัลฟุฎ็อยลฺ การอ่านของท่านช่างทำให้รู้สึกเศร้า เต็มไปด้วยความปรารถนา อ่านอย่างช้าๆ ชัดถ้อยชัดคำ เสมือนท่านกำลังสนทนากับใครคนหนึ่ง เมื่อท่านอ่านไปถึงอายะฮฺหนึ่งที่พูดถึงสวรรค์ ท่านก็จะอ่านอายะฮฺนั้นซ้ำไปซ้ำมาและขอดุอาอ์(ต่ออัลลอฮ) การละหมาดยามค่ำคืนของเข้าส่วนใหญ่แล้วกระทำในท่านั่ง ท่านเก็บเสื่อไว้ที่ที่ละหมาดของท่าน ท่านละหมาดในช่วงต้นของกลางคืนช่วงหนึ่ง เมื่อดวงตาของท่านง่วง ท่านก็ล้มตัวลงบนเสื่อและนอนหลับไปครู่หนึ่ง แล้วก็ตื่นขึ้นมา(ละหมาดกลางคืน) เมื่อท่านง่วงท่านก็นอน แล้วก็ตื่นขึ้นมา(ละหมาด) เป็นเช่นนี้จนกระทั่งถึงเวลาศุบหฺ เป็นเรื่องปกติของท่าน เมื่อท่านง่วงท่านก็นอน แต่อย่างที่ทราบกัน อิบาดะฮฺที่เปี่ยมด้วยความมุ่งมั่นนั้นคือ ด้วยวิธีการเช่นนั้นแหล่ะ

ท่านคือคนที่พูดจริง ซื่อสัตย์ในคำพูด รู้สึกกลัวอย่างมากเมื่อรายงานหะดีษ ท่านรู้สึกลำบากใจอย่างมากในการรายงานหะดีษ บางครั้งท่านก็พูดกับฉันว่า “หากท่านขอเงินดีนารจำนวนหนึ่งจากฉัน นั่นง่ายสำหรับฉันมากกว่าการที่ท่านขอหะดีษจากฉัน” ฉันพูดว่า “หากท่านรายงานแก่ฉันหะดีษต่างๆที่กล่าวถึงประโยชน์ต่างๆที่ฉันไม่มี นั่นเป็นสิ่งที่ฉันชอบมากกว่าการท่านมอบเงินดีนารเท่ากับหะดีษเหล่านั้น” ท่านอัลฟุฎ็อยลฺกล่าวว่า “ท่านถูกฟิตนะฮฺแล้ว ขอสาบานต่ออัลลอฮ หากท่านได้ปฏิบัติในสิ่งที่ท่านได้ฟังมา แน่นอนว่านั่นก็ได้ทำให้ท่านยุ่งมากพอที่จะสนใจสิ่งที่ฉันยังไม่ได้ฟัง ฉันได้ยินสุลัยมาน บินมิหฺรอนกล่าวว่า ‘หากเบื้องหน้าท่านมีอาหารที่ท่านทาน แล้วท่านก็ทานคำหนึ่งไป ท่านก็จะถ่ายมันออกมาทางทหารของท่าน เมื่อท่านอิ่มเรียบร้อยแล้ว’” [1]

จากอิบรอฮีม อัลอัชอัษ กล่าวว่า “ฉันไม่เคยพบเห็นใครที่อัลลอฮทรงยิ่งใหญ่ในใจของเขามากไปกว่าท่านอัลฟุฎ็อยลฺ บิน อิยาฎ เมื่อท่านรำลึกถึงอัลลอฮ หรือพระนามของอัลลอฮถูกเอ่ยขึ้นมา หรือท่านได้ฟังอัลกุรอาน ความกลัวและความโศกเศร้าก็จะปรากฏชัดที่ตัวท่าน แล้วดวงตาทั้งสองข้างของท่านก็หลั่งน้ำตาออกมา จนกระทั่งผู้คนที่อยู่รายล้อมตัวท่านรู้สึกสงสารและเอ็นดูท่าน ท่านเศร้าและคิดมากเสมอ ฉันไม่เคยเห็นใครที่ปรารถนาในอัลลอฮ ด้วยกับความรู้ของเขา การงานของเขา สิ่งที่เขารับมา สิ่งที่เขามอบให้ สิ่งที่เขาหักห้าม ด้วยกับความเสียสละของเขา ความโกรธเกลียดของเขา ความรักของเขา และด้วยลักษณะอื่นๆมากไปกว่าท่านอัลฟุฎ็อยลฺเลย”

อิบรอฮีมยังกล่าวถึงท่านอัลฟุฎ็อยลฺอีกว่า “เมื่อเราออกไปส่งญะนาซะฮฺพร้อมกับท่านอัลฟุฎ็อยลฺ ท่านไม่หยุดนะศีหะฮฺและมอบบทเรียน(ให้กับผู้คน) พร้อมกับร้องไห้ออกมาตลอดเวลา ราวกับว่าท่านออกเดินทางไปพร้อมกับสหายของท่านมุ่งสู่โลกอาคิเราะฮฺจนกระทั่งถึงหลุมฝัง แล้วท่านก็นั่งลงเสมือนกำลังอยู่ท่ามกลางคนตาย ท่านนั่งลงเพราะความโศกเศร้าและการร้องไห้ จนกระทั่งท่านลุกขึ้นยืน ราวกับว่าท่านเพิ่งกลับมาจากอาคิเราะฮฺเพื่อบอกเล่าเกี่ยวกับชีวิต ณ ที่นั่น”[2]

จากสุฟยาน บินอุยัยนะฮฺ กล่าวว่า “ฉันไม่เคยเห็นใครที่เกรงกลัว(ต่ออัลลอฮ)มากไปกว่าท่านอัลฟุฎ็อยลฺและบิดาของท่าน”[3]

จากอิสหาก บินอิบรอฮีม กล่าวว่า “ท่านอับดุลลอฮ บิน อัลมุบาร็อก กล่าวว่า ‘หากอัลฟุฎ็อยลฺเสียชีวิต ความโศกเศร้าก็จะถึงขีดสุด’”[4]

อิบรอฮีม บินสะอีด อัลเญาฮารีย์ กล่าวว่า “อัลมะอ์มูน กล่าวกับฉันว่า อัรรอชิด กล่าวว่า ‘ดวงตาทั้งสองข้างของฉันไม่เคยเห็นใครที่เหมือนกับท่านอัลฟุฎ็อยลฺ บิน อิยาฎเลย ขณะที่ฉันพบกับท่าน ท่านบอกกับฉันว่า ‘จงให้โอกาสหัวใจของท่านได้โศกเศร้าและเกรงกลัวเถิด จนกระทั่งมันทั้งสองสามารถสะกดหัวใจของท่านได้ แล้วมันก็ตัดขาดตัวท่านจากการฝ่าฝืนอัลลอฮ และทำให้ท่านห่างไกลจากไฟนรก’’”[5]

จากอิบนุ อบีอุมัร กล่าวว่า “ฉันไม่เคยเห็นใครเลยหลังจากท่านอัลฟุฎ็อยลฺที่จะเป็นคนที่ชอบทำอิบาดะฮฺมากกว่าไปวะกีอฺ”[6]

จากท่านอิบนุล มุบาร็อก กล่าวว่า “เมื่อใดที่ฉันมองไปยังอัลฟุฎ็อยลฺ เขาทำให้ฉันรู้สึกเศร้าขึ้นใหม่อีกครั้ง และทำให้ฉันรังเกียจตัวฉันเอง แล้วฉันก็ร้องไห้”[7]

ความอุตสาหะของท่านอัลฟุฎ็อยลฺ บิน อิยาฎ ในการปฏิบัติตามสุนนะฮฺของท่านนบี และการตำหนิของท่านต่อบิดอะฮฺและอะฮฺลุลบิดอะฮฺ 

จากอับดุศเศาะมัด บินยะซีด กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านอัลฟุฎ็อยลฺ กล่าวว่า “ใครก็ตามที่รักผู้กระทำบิดอะฮฺ อัลลอฮจะทรงทำให้การงานของเขาสูญเปล่า และถอดถอนรัศมีแห่งอิสลามออกจากหัวใจของเขา”[8]

จากอับดุศเศาะมัด กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านอัลฟุฎ็อยลฺกล่าวว่า “หากท่านเห็นอะฮฺลุลบิดอะฮฺบนถนนแห่งหนึ่ง ก็จงเลือกเดินบนถนนอื่นเถิด”[9]

ท่านอัลฟุฎ็อยลฺ กล่าวว่า “การงานของผู้กระทำบิดอะฮฺจะไม่ถูกนำขึ้นไปยังอัลลอฮ”[10]

จากท่านอัลฟุฎ็อยลฺ กล่าวว่า “ผู้ใดช่วยเหลือผู้กระทำบิดอะฮฺ นั่นหมายความว่า เขาได้ให้ความช่วยเหลือในการทำลายอิสลาม”[11]

จากหุสัยนฺ บินซิยาด กล่าวว่า ฉันได้ยินท่านอัลฟุฎ็อยลฺ กล่าวว่า “คนๆหนึ่งจะไม่ถูกตำหนิ หากเขามี 3 คุณลักษณะต่อไปนี้คือ หากเขาไม่ใช่พวกที่ชอบตามอารมณ์ , ไม่ต่อว่าด่าทอชาวสะลัฟ และไม่คลุกคลีอยู่กับผู้มีอำนาจปกครอง”[12]

จากอับดุศเศาะมัด บินยะซีด อัศศออิฆ กล่าวว่า “(ชื่อของ)บรรดาเศาะหาบะฮฺได้ถูกเอ่ยขึ้นต่อหน้าท่านอัลฟุฎ็อยลฺ(และฉันได้ยินมันด้วย) ท่านก็พูดขึ้นว่า ‘จงปฏิบัติตามเถิด แท้จริงท่านอบูบักรฺ , อุมัร , อุษมาน และอลีนั้นเพียงพอแล้วสำหรับพวกท่าน’”[13]

อัซซะฮะบีย์ กล่าวว่า “ดังนั้น คนๆนี้(หมายถึงท่านอัลฟุฎ็อยลฺ)คือ ผู้ที่ปฏิบัติและเจริญตามสุนนะฮฺ”[14]

ครูบาอาจารย์และสานุศิษย์ของท่านอัลฟุฎ็อยลฺ บิน อิยาฎ 

            ครู-อาจารย์ของท่าน :

อัลหาฟิซ กล่าวว่า “ท่าน(อัลฟุฎ็อยลฺ)รายงานจากอัลอะอฺมัช , มันศูรฺ , อุบัยดุลลอฮ บินอุมัร , ฮิชาม บินหัสสาน , ยะหฺยา บินสะอีด อัลอันศอรีย์ , มุหัมมัด บินอิสหาก , ลัยษฺ บิน อบูสุลัยมฺ , มุหัมมัด บินอัจลาน , หุศ็อยนฺ บินอับดุรเราะหฺมาน , สุลัยมาน อัตตัยมีย์ , หุมัยดฺ อัฏฏอวิล , ฟิฎรฺ บินเคาะลีฟะฮฺ , ศ็อฟวาน บินสุลัยมฺ , ญะอฺฟัร บินมุหัมมัด อัศศิดดี้ก , อิสมาอีล บินอบูคอลิด , บะยาน บินบิชรฺ , ซิยาด บิน อบูซิยาด , เอาฟฺ อัลอะอฺรอบีย์ และคนอื่นๆ”

ลูกศิษย์ของท่าน :

อัลหาฟิซ กล่าวว่า “ส่วนผู้ที่รายงานจากท่านได้แก่ อัษเษารีย์ และเขาคือหนึ่งในชัยคฺของท่าน(อัลฟุฎ็อยลฺ)ด้วย , อิบนุอุยัยนะฮฺ และเขาคือหนึ่งในเพื่อนร่วมรุ่นกับท่านอัลฟุฎ็อยลฺ , อิบนุล มุบาร็อก เขาเสียชีวิตก่อนท่านอัลฟุฎ็อยลฺ , ยะหฺยา อัลกอฎฎ็อน , อิบนุมะฮฺดีย์ , อุสัยนฺ บิน อลี อัลญูฟีย์ , อับดุรร็อซซาก , อิสหาก บินมันศูร อัสสะลุลีย์ , อัลอัศมะอีย์ , อิบนุวะฮบฺ อัชชาฟิอีย์ , มัรวาน บินมุหัมมัด , มุอัมมัล บินอิสมาอีล , หุรัยมฺ บินสุฟยาน , ยูสุฟ บินมัรวาน , ยะหฺยา บินยะหฺยา อัตตะมีมีย์ , อัลเกาะอฺนะบีย์ , อะหฺมัด บินอับดุลลอฮ บินยูนุส , มุสัดดัด , มุหัมมัด บินยะหฺยา บินอบูอุมัร , อัลหุมัยดีย์ , อิบรอฮีม บินมุหัมมัด อัชชาฟิอีย์ , ดาวูด บินอัมรฺ , อบูอัมมาร อัลหุสัยนฺ บินหุร็อยษฺ , อัลมัรวะซีย์ , อัลหุศ็อยนฺ บินอัรรอบิอฺ อัลบุเราะนีย์ , อัลหะสัน บินอิสมาอีล อัลมุญาลิดีย์ , อะหฺมัด บินอับดะฮฺ อัฎฎ็อบบีย์ , กุตัยบะฮฺ บินสะอีด , อุบัยดุลลอฮ บินอุมัร อัลเกาะวารีรีย์ , อับดะฮฺ บินอับดุรเราะหฺมาน อัลมัรวะซ๊ย์ , มุหัมมัด บินซันบูร อัลมักกีย์ , มุหัมมัด บินสุลัยมาน ลุวัยนฺ และคนอื่นๆ”[15]

_________________________

[1] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 8/427-428

[2] ตะฮฺซีบ อัลกะมาล , ญะมาลุดดีน อัลมิซซีย์ , 23/289 , 290

[3] หิลยะฮฺ อัลเอาลิยาอ์ วะเฏาะบะก็อต อัลอัศฟิยาอ์ , อบูนุอัยมฺ , 8/85

[4] หิลยะฮฺ อัลเอาลิยาอ์ วะเฏาะบะก็อต อัลอัศฟิยาอ์ , อบูนุอัยมฺ , 8/87

[5] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 8/438

[6] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 8/438

[7] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 8/438

[8] หิลยะฮฺ อัลเอาลิยาอ์ วะเฏาะบะก็อต อัลอัศฟิยาอ์ , อบูนุอัยมฺ , 8/103

[9] หิลยะฮฺ อัลเอาลิยาอ์ วะเฏาะบะก็อต อัลอัศฟิยาอ์ , อบูนุอัยมฺ , 8/103

[10] หิลยะฮฺ อัลเอาลิยาอ์ วะเฏาะบะก็อต อัลอัศฟิยาอ์ , อบูนุอัยมฺ , 8/103

[11] หิลยะฮฺ อัลเอาลิยาอ์ วะเฏาะบะก็อต อัลอัศฟิยาอ์ , อบูนุอัยมฺ , 8/103

[12] หิลยะฮฺ อัลเอาลิยาอ์ วะเฏาะบะก็อต อัลอัศฟิยาอ์ , อบูนุอัยมฺ , 8/104

[13] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 8/448

[14] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 8/448

[15] ตะฮฺซีบ อัตตะฮฺซีบ , อิบนุ หะญัร อัลอัษเกาะลานีย์ , 8/264 , 265

 

ป้ายกำกับ: , , , , , , , , , , , , , , , ,

ชีวประวัติท่านอัลฟุฎ็อยลฺ บิน อิยาฎ เราะหิมะฮุลลอฮ (ตอนที่ 1)

الفضيل بن عياض

ชีวประวัติท่านอัลฟุฎ็อยลฺ บิน อิยาฎ เราะหิมะฮุลลอฮ
(ตอนที่ 1 : ชื่อ , การเกิด และคำยกย่องชมเชยจากบรรดาอุละมาอ์)
แปลและเรียบเรียงโดย Zunnur

            ยังคงอยู่กับชุดชีวประวัติที่งดงามของผู้นำชาวสะลัฟ ต่อไปนี้คือประวัติของหนึ่งในผู้นำผู้สมถะ สำรวมตน เกรงกลัว และชอบทำอิบาดะฮฺ ท่านคือคนที่ถูกขนานนามว่าเป็น “อาบิด อัลหะเราะมัยนฺ-นักอิบาดะฮฺแห่งเมืองมักกะฮฺและมะดีนะฮฺ” ท่านคือ อัลฟุฎ็อยลฺ บิน อิยาฎ เราะหิมะฮุลลอฮ ท่านคือผู้ชำระขัดเกลาจิตใจของตนเอง จนกระทั่งสามารถสนทนาพูดคุยด้วยวิทยปัญญา(หิกมะฮฺ)และคำพูดที่ชัดเจน ทานคือเพื่อนร่วมรุ่นกับอิมามมาลิก , ท่านสุฟยาน และท่านอิบนุล มุบาร็อก เป็นรุ่นที่เปี่ยมด้วยบะรอกะฮฺ คือรุ่นของผู้นำของอัตบาอ์ อัตตาบิอีน(ผู้เจริญตามตาบิอีน) ขออัลลอฮทรงเมตตาบรรดาอิมามผู้มีเกียรติของพวกเรา และขอพระองค์ทรงรวมเราไว้กับพวกท่านเหล่านั้น ณ แผ่นดินที่ศานติ(คือสวนสวรรค์)ด้วยเถิด

ชื่อและการเกิดของท่านอัลฟุฎ็อยลฺ บิน อิยาฎ 

ชื่อของท่าน :

อบูอลี , อัลฟุฎ็อยลฺ บิน อิยาฎ บิน มัสอูด บิน บิชรฺ อัตตะมีมีย์ อัลยัรบูอีย์

การเกิดของท่าน :

ท่านเกิดที่เมืองสะมัรกอนด์ และเติบโตที่อับยูรดฺ เป็นเมืองหนึ่งที่อยู่ระหว่างสะร็อคสฺและนะซา ท่านทำงานและเขียนหนังสือที่เมืองกูฟะฮฺ แล้วท่านก็ย้ายมาอยู่ที่เมืองมักกะฮฺ

คำยกย่องชมเชยจากบรรดาอุละมาอ์ 

อิบนุสะอดฺ กล่าวว่า “ท่าน(อัลฟุฎ็อยลฺ)คือคนที่เชื่อถือได้(ษิเกาะฮฺ) มีคุณความดีมากมาย เป็นนักอิบาดะฮฺ มีความสำรวมตัน และมีหะดีษมากมาย”[1]

อิบนุหิบบาน กล่าวว่า “ท่านโตเป็นผู้ใหญ่ที่เมืองกูฟะฮฺ และเขียนหะดีษที่นั่น หลังจากนั้นท่านก็อพยพไปยังมักกะฮฺ และพำนักอยู่ที่นั่นในฐานะเป็นแขกของบัยตุลลอฮ อัลหะรอม พร้อมกับมีความเชื่อมั่นอย่างมาก , สำรวมตนอย่างที่สุด ความเกรงกลัวที่สมบูรณ์ การร้องไห้ที่มากมาย รักความสันโดษ ปฏิเสธการปะปนอยู่กับคนอื่นและปัจจัยทางดุนยาต่างๆ จนกระทั่งเสียชีวิตที่นั่นในปีฮิจเราะฮฺที่ 187”[2]

อัซซะฮะบีย์ กล่าวว่า “อัลฟุฎ็อยลฺ บิน อิยาฎ คือคนที่สมถะ เป็นชัยคฺแห่งเมืองหะรอม เป็นนักรายงานหะดีษที่แม่นยำ(ษะบาต) ความน่าเชื่อถือและความยิ่งใหญ่ของเขาเป็นมติความเห็นที่ตรงกัน(ในหมู่อุละมาอ์) ไม่สงสัยอีกแล้วกับสิ่งที่อะหฺมัด บินคุษัยมะฮฺได้รายงานไว้ เขากล่าวว่า ฉันได้ยินกุฏบะฮฺ บิน อัลอะลาอ์ กล่าวว่า ‘ฉันละทิ้งหะดีษของอัลฟุฎ็อยลฺ บิน อิยาฎ เพราะเขารายงานหะดีษต่างๆที่เป็นการโกหกต่อท่านอุษมาน บิน อัฟฟาน’ กุฏบะฮฺเป็นใครกัน? และกุฏบะฮฺเป็นอะไร? ถึงได้กล้าตำหนิท่านอัลฟุฎ็อยลฺ ทั้งที่ตัวเขาเองนั้นคือคนที่พินาศ”[3]

อิบรอฮีม บินมุหัมมัด อัชชาฟิอีย์ กล่าวว่า “ฉันได้ยินสุฟยาน บินอุยัยนะฮฺ กล่าวว่า ‘อัลฟุฎ็อยลฺคือคนที่เชื่อถือได้(ษิเกาะฮฺ)’”[4]

อัลอิจลีย์ กล่าวว่า “ท่าน(อัลฟุฎ็อยลฺ)คือชาวกูฟะฮฺ , เชื่อถือได้(ษิเกาะฮฺ) , เป็นนักอิบาดะฮฺ , คนดี และพำนักอยู่ที่เมืองมักกะฮฺ”

อิบรอฮีม บินชัมมาส รายงานจากท่านอิบนุล มุบาร็อก กล่าวว่า “สำหรับฉันแล้ว ไม่เหลือใครอีกแล้วบนโลกใบนี้ที่ประเสริฐ(ดี)กว่าอัลฟุฎ็อยลฺ บิน อิยาฎ”[5]

จากนัศรฺ บิน อัลมุฆีเราะฮฺ อัลบุคอรีย์ กล่าวว่า “ฉันได้ยินอิบรอฮีม บินชัมมาส กล่าวว่า ‘ฉันได้เห็นคนที่มีความเข้าใจลึกซึ้งในศาสนา(ฟะกีฮฺ)ที่สุด คนที่มีความสำรวมตนที่สุด และคนที่จดจำมากที่สุด คือ ท่านวากิอฺ , อัลฟุฎ็อยลฺ และอิบนุล มุบาร็อก’”[6]

จากอับดุศเศาะมัด , มัรดะวัยฮฺ อัศศออิฆ กล่าวว่า “ท่านอิบนุล มุบาร็อก กล่าวกับฉันว่า ‘อัลฟุฎ็อยลฺ บิน อิยาฎ ซื่อตรงต่ออัลลอฮ อัลลอฮจึงประทานหิกมะฮฺผ่านลิ้นของเขา อัลฟุฎ็อยลฺคือคนที่อัลลอฮทรงทำให้การงานของเขาเป็นประโยชน์’”[7]

อบูนุอัยมฺ กล่าวว่า “ในหมู่พวกเขานั้นมีคนที่ปลีกวิเวกตัวเองจากทะเลทรายซาฮาร่าและสถานที่เปลี่ยวไปสู่ที่พักอาศัยและบ่อน้ำ ย้ายจากความพินาศและความเสื่อมเสียไปสู่ป้อมปราการและเรือกสวน , อบูอลี อัลฟุฎ็อยลฺ บิน อิยาฎ เขาตัวผมอเนื่องจากความหวาดกลัว(ต่ออัลลอฮ) และชอบการเฏาะวาฟ”[8]

อัซซะฮะบีย์ กล่าวว่า “ส่วนคำพูดของอิบนุ มะฮฺดีย์ที่ว่า ‘เขา(อัลฟุฎ็อยลฺ)ไม่ใช่หาฟิซ’ นั้นหมายถึง ในวิชาหะดีษ เขาไม่ได้เหมือนบรรดานักท่องจำหะดีษที่มากมายเหมือนมหาสมุทร อย่างท่านชุอฺบะฮฺ , มาลิก , สุฟยาน , หัมมาด , อิบนุล มุบาร็อก และคนอื่นๆที่คล้ายคลึงพวกเขา แต่เขามีความแม่นยำ(ษะบาต) ตรงไปตรงมากับสิ่งที่เขารายงาน หะดีษของเขาไม่มีข้อตำหนิ อย่างที่ท่านรู้กัน ไม่มีความรู้ใดที่ถูกเสนอ เว้นแต่อัลฟุฎ็อยลฺได้รับมันมาแล้ว”[9]

_____________________________

[1] อัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบรอ , มุหัมมัด บินสะอดฺ , 6/500

[2] อัษษิกอต , อิบนุหิบบาน , 7/315

[3] มีซาน อัลอิอฺติดาล , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , เล่มที่ 4 , หมายเลข 6768

[4] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 8/423

[5] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 8/424

[6] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 8/424

[7] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 8/425

[8] หิลยะฮฺ อัลเอาลิยาอ์ วะเฏาะบะก็อต อัลอัศฟิยาอ์ , อบูนุอัยมฺ , 8/84

[9] สิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดีน อัซซะฮะบีย์ , 8/448

 

ป้ายกำกับ: , , , , , , , , , , , ,

ชีวประวัติท่านสะอีด บิน อัลมุสัยยับ เราะหิมะฮุลลอฮ (ตอนที่ 6-ตอนจบ)

سعيد بن المسيب5
ชีวประวัติท่านสะอีด บิน อัลมุสัยยับ เราะหิมะฮุลลอฮ
(ตอนที่ 6-ตอนจบ : ถ้อยคำล้ำค่า , การเจ็บป่วย และเสียชีวิต)
แปลและเรียบเรียงโดย Zunnur

ถ้อยคำล้ำค่าของท่านสะอีด บิน อัลมุสัยยับ 

จากอับดุลลอฮ บินมุหัมมัด กล่าวว่า สะอีด บิน อัลมุสัยยับ เล่าให้กับเรา เขากล่าวว่า “ไม่มีการงานใดที่บ่าวจะได้รับความเคารพจากตัวเองเฉกเช่นการเชื่อฟังอัลลอฮ และไม่มีการงานใดที่บ่าวจะนำความอัปยศมาสู่ตัวเองได้เหมือนกับการฝ่าฝืนพระองค์ และเพียงพอแล้วที่ผู้ศรัทธาจะได้รับความช่วยเหลือจากอัลลอฮ เมื่อเขามองเห็นศัตรูฝ่าฝืนต่อพระองค์” [1]

จากอับดุรเราะหฺมาน บินหัรมะละฮฺ(ลูกศิษย์ของท่านสะอีด บิน อัลมุสัยยับ) เขากล่าวว่า ท่านสะอีด บิน อัลมุสัยยับ กล่าวว่า “อย่าได้พูดว่ามุศ็อยหิฟ(เพื่อมุศหัฟ) มุสัยญิด(เพื่อมัสญิด) ทุกสิ่งที่ถูกเสนอให้แก่อัลลอฮนั้นจะต้องเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ดีพร้อม และงดงาม”[2]

จากอลี บินซัยดฺ จากสะอีด บิน อัลมุสัยยับ กล่าวว่า “ชัยฏอนจะไม่สิ้นหวังจากสิ่งๆหนึ่ง(หรือคนๆหนึ่ง) นอกจากมันจะมาหามันผ่านทางผู้หญิง” หลังจากนั้นสะอีดก็พูดต่อ ทั้งๆที่ขณะนั้นท่านอายุได้ 84 ปีแล้ว และดวงตาข้างหนึ่งของท่านก็บอดแล้ว ในขณะที่อีกข้างก็พร่ามัวเต็มที ท่านพูดว่า “ไม่มีฟิตนะฮฺใดที่ฉันกลัวมากกว่าไป(ฟิตนะฮฺจาก)ผู้หญิง”[3]

จากอับดุรเราะหฺมาน บินหัรมะละฮฺ เล่าวว่า เขาเคยถามท่านสะอีด บิน อัลมุสัยยับ ว่า “ฉันเห็นคนๆหนึ่งกำลังเมา ท่านคิดเห็นอย่างไรหากฉันไม่รายงานเรื่องนี้แก่ผู้ปกครอง?” ท่านสะอีดตอบว่า “หากท่านสามารถปกปิดเขาด้วยเสื้อผ้าของท่าน ก็จงปกปิดเขาเถิด” [4]

จากอบูอีซา อัลคุรอสานีย์ จากท่านสะอีด บิน อัลมุสัยยับ กล่าวว่า “พวกท่านอย่าได้ให้ดวงตาของท่านเต็มไปด้วย(การมอง)บรรดาผู้ช่วยเหลือความอธรรม นอกจากด้วยการห้ามปรามจากหัวใจของพวกท่าน หวังว่าการงานที่ดีของพวกท่านจะไม่ถูกลบหายไป”[5]

จากสุฟยาน บินอุยัยนะฮฺ กล่าวว่า ท่านสะอีด บิน อัลมุสัยยับ กล่าวว่า “แท้จริงดุนยานั้นคือสิ่งที่น่าสังเวช และนำไปสู่ความน่าสังเวชทั้งหมด และที่น่าสังเวชยิ่งกว่านั้นก็คือ การรับและแสวงหาดุนยาโดยไม่มีสิทธิ และใช้จ่ายมันไปในทางที่ไม่เหมาะควร”[6]

การเจ็บป่วยและเสียชีวิตของท่านสะอีด บิน อัลมุสัยยับ

จากอับดุรเราะหฺมาน บินหัรมะละฮฺ กล่าวว่า “ฉันพบท่านสะอีด บิน อัลมุสัยยับ ขณะที่ท่านป่วยหนัก และขณะนั้นท่านกำลังละหมาดซุฮรฺในสภาพที่นอนให้สัญญาณ แล้วฉันก็ได้ยินท่านอ่าน วัชชัมสิ วะฎุฮาฮา”[7]

จากอับดุรเราะหฺมาน บิน อัลหาริษ อัลมัคซูมีย์ กล่าวว่า “อาการป่วยของท่านสะอีด บิน อัลมุสัยยับ รุนแรงมาก แล้วนาฟิอฺ บินญุบัยรฺ ก็มาเยี่ยมท่าน ปรากฏว่าท่านสะอีดเป็นลม นาฟิอฺจึงพูดว่า ‘จงหันไปยังทิศกิบละฮฺ’ พวกเขา(ญาติพี่น้องของท่านสะอีด)ก็ทำตาม แล้วท่านสะอีดก็รู้สึกตัว ท่านพูดขึ้นว่า ‘ใครสั่งพวกท่านเปลี่ยนที่นอนของฉันให้หันไปทางทิศกิบละฮฺ? นาฟิอฺไหม?’ นาฟิอฺตอบว่า ‘ใช่ครับ’ ท่านสะอีดกล่าวกับนาฟิอฺว่า ‘หากฉันไม่ได้อยู่ในสภาพที่ยึดมั่นกับกิบละฮฺและศาสนานี้ ขอสาบานต่ออัลลอฮ การที่พวกท่านหันที่นอนนี้ของฉันไปยังทิศกิบละฮฺ จะไม่มีประโยชน์ใดๆสำหรับฉันเลย’”[8]

จากยะหฺยา บินสะอีด กล่าวว่า “เมื่อครั้นท่านสะอีด บิน อัลมุสัยยับ เผชิญกับความเจ็บปวดของความตาย ท่านได้ทิ้งมรดกไว้เพียงไม่กี่ดีนารเท่านั้น ท่านพูดว่า ‘โอ้อัลลอฮ แท้จริงพระองค์ทรงรู้ดีว่า ข้าพระองค์มิได้ทิ้งสิ่งใดไว้นอกจากเพื่อรักษาชื่อเสียงที่ดีของ(ครอบครัว)ฉันและศาสนาของฉัน’”[9]

จากอับดุลหะกีม บินอับดุลลอฮ บิน อบูฟัรวะฮฺ กล่าวว่า “ท่านสะอีด บิน อัลมุสัยยับ เสียชีวิตที่เมืองมะดีนะฮฺ ในปีฮิจเราะฮฺที่ 94 ในช่วงสมัยของเคาะลีฟะฮฺอัลวะลีด บิน อับดุลมะลิก ขณะอายุได้ 75 ปี ปีท่านสะอีดเสียชีวิตนี้ถูกเรียกว่าเป็นปีแห่งฟุเกาะฮาอ์ เพราะมีฟุเกาะฮาอ์หลายคนเสียชีวิตในปีดังกล่าว”[10]

ในปีดังกล่าว มีฟุเกาะฮาอ์แห่งเมืองมะดีนะฮฺ(ซึ่งถูกเรียกว่า ฟะเกาะฮาอ์ อัสสับอะฮฺ-นักนิติศาสตร์ทั้งเจ็ด)เสียชีวิต ได้แก่ ท่านอบูมุหัมมัด อุรวะฮฺ บินอัซซุบัยรฺ , อบูบักรฺ บินอับดุรเราะหฺมาน บินอัลหาริษ บินฮิชาม บินอัลมุฆีเราะฮฺ อัลมัคซูมีย์ , ซัยนัลอาบิดีน อลี บิน อัลหุสัยนฺ อัลหาชิมีย์ เป็นอุละมาอ์ที่มีชื่อเสียงและเป็นคนที่สมถะ และอบูสะละมะฮฺ บินอับดุรเราะหฺมาน บินเอาฟฺ อัซซุฮรีย์ ซึ่งเป็นอิมามที่มีชื่อเสียงคนหนึ่ง ขออัลลอฮทรงเมตตาพวกท่านทุกคน

ขอการสถาพร ความศานติ และสิริมงคลทั้งหลายจงมีแด่ท่านนบีมุหัมมัด ครอบครัวของท่าน และบรรดาเศาะหาบะฮฺของท่าน

_____________________________

[1] หิลยะฮฺ อัลเอาลิยาอ์ วะเฏาะบะก็อต อัลอัศฟิยาอ์ , อบูนุอัยมฺ , 2/164 , อัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบรอ , มุหัมมัด บินสะอีด , 5/137 และอัซซะฮะบีย์ระบุไว้ในอัสสิยัรฯ , 4/238

[2] หิลยะฮฺ อัลเอาลิยาอ์ วะเฏาะบะก็อต อัลอัศฟิยาอ์ , อบูนุอัยมฺ , 2/173 และอัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบรอ , มุหัมมัด บินสะอีด , 5/137

[3] หิลยะฮฺ อัลเอาลิยาอ์ วะเฏาะบะก็อต อัลอัศฟิยาอ์ , อบูนุอัยมฺ , 2/166 และสิยัร อะอฺลาม อันนุบะลาอ์ , ชัมสุดดี อัซซะฮะบีย์ , 4/237

[4] อัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบรอ , มุหัมมัด บินสะอีด , 5/134

[5] หิลยะฮฺ อัลเอาลิยาอ์ วะเฏาะบะก็อต อัลอัศฟิยาอ์ , อบูนุอัยมฺ , 2/170

[6] อัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบรอ , มุหัมมัด บินสะอีด , 5/141 และอัสสิยัรฯ , 4/244

[7] อัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบรอ , มุหัมมัด บินสะอีด , 5/142 และอัสสิยัรฯ , 4/244-245

[8] อัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบรอ , มุหัมมัด บินสะอีด , 5/142 และอัสสิยัรฯ , 4/245

[9] อัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบรอ , มุหัมมัด บินสะอีด , 5/143 และอัสสิยัรฯ , 4/245

[10] อัฏเฏาะบะก็อต อัลกุบรอ , มุหัมมัด บินสะอีด , 5/143

 

ป้ายกำกับ: , , , , , , , , , , , , , , , ,

 
Blog Abu Umamah™

Media Belajar Dan Berbagi Ilmu Islam Ahlussunnah Wal Jama'ah

Baannada The Coach

บ้านณดาเดอะโค้ช- เพจเลี้ยงลูกเชิงบวกแบบฉบับโค้ชชีวิต เลี้ยง-เล่น-เที่ยว-ใช้ชีวิตอย่างมีความหมายไปกับลูก

Insyaflah, wahai Salafy!

Kalau tidak ada yang menjelaskan ... bagaimana ummat bisa tahu ?

faham.wordpress.com

Tugas pertama kita adalah memahami Islam, bukan sekedar mengetahui dalilnya

irwandizakaria-blog

Berikan yang Terbaik, Insya Allah akan Dapat Yang Terbaik

Renaissance

ไม่จุดเริ่มต้นไม่มีที่สิ้นสุด

Terjemah Kitab Salaf

membumikan dakwah ahlus sunnah

Bahasa Arab Jarak Jauh at-Taisir

Mempelajari Bahasa al-Qur'an dan as-Sunnah

Ibnu Taimiyah

Menguak keagungan seorang Syaikhul Islam

ABU MUSA AL-ATSARI

Belajar Islam, Menikmati Alam

Meniti Jalan menuntut Ilmu

Membuka Jalan Menuju Surga...

bushrohouse

ห้องสมุดบ้านบุชรอ : ห้องสมุดเพื่ออุมมะฮฺ

Para Ulama Ahlul Hadits

Biografi Ahlul Hadits, Para Sahabat, Tabi’in dan Tabiut Tabi’in beserta Keluarga Rasulullah صلى ا لله عليه وسلم

Salafy

Meneladani Generasi Terdahulu yang Shalih

บ้านเรียนอัลอัรกอม

ปฏิบัติดี วิถีอิสลาม ความรู้กว้างไกล

Mengenal Ajaran Islam Lebih Dekat

Islam, Rumaysho, Salafi, Ahlus Sunnah, Ahlus Sunnah wal Jama'ah, Muslim